ทองคำขึ้นต่อวันที่ 3 จากคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ
คืนนี้ 2 ทุ่มครึ่งติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,820-1,850ดอลลาร์
- ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและความหวังการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ หลังจากที่นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา และนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ร่วมกันผลักดันให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบของไวรัสโควิด-19 วงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์นอกจากนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ย.ลดลงสู่ระดับ 55.9 ซึ่งลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ 1.46 ตัน
- คืนนี้เวลา 20.30 น. สหรัฐจะประกาศการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 500,000 ตำแหน่ง หลังจากเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 638,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานเดือนพ.ย. ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ6.8% จาก 6.9% ในเดือนต.ค.
- แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,820-1,850ดอลลาร์ โดยตลาดรอติดตามความคืบหน้าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ และการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนพ.ย.ที่จะประกาศในคืนนี้ โดยมีแนวรับ 1,820 ดอลลาร์ และแนวรับสำคัญ 1,800 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,850 ดอลลาร์ และ 1,875 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,840.70 | +10.20 | 1,820/1,800 | 1,850/1,875 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
26,250 | +100 | 26,000/25,750 | 26,400/26,750 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
26,370 | – | 26,150/25,880 | 26,550/26,890 |
แนะนำเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาทองคำ Spot ปรับลงมาที่ 1,820 ดอลลาร์ (GF26,150 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,810 ดอลลาร์ (GF 26,000 บาท)
การลงทุนในทองแท่งเน้นลงทุนในระยะยาวและควรแบ่งเงินลงทุนในการทยอยซื้อสะสม แนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,800 ดอลลาร์และ 1,750-1,765 ดอลลาร์
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,840.80 | +3.10 | 1,820/1,800 | 1,850/1,875 |
แนะนำเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาGOZ20ปรับลงมาที่ 1,820 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,810 ดอลลาร์
เงินบาท
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ย. ลดลงสู่ระดับ 55.9 ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. สำหรับUSD Futures เดือนธ.ค.63 คาดจะมีแนวรับที่ 30.10 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่30.25บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลักหลังสหรัฐเผยข้อมูลศก.ซบเซา
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.44% แตะที่ 90.7169 เมื่อคืนนี้
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดบวก $10.9 รับดอลล์อ่อน,คาดแผนกระตุ้นศก.คืบหน้า
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สามเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์รวมทั้งความหวังที่ว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 10.9 ดอลลาร์หรือ 0.6% ปิดที่ 1,841.1 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 5.7 เซนต์หรือ 0.24% ปิดที่ 24.137 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดบวก 36 เซนต์รับโอเปกพลัสคงนโยบายลดการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสมีมติคงนโยบายลดการผลิตนอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 36 เซนต์หรือ 0.8% ปิดที่ 45.64 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์หรือ 1% ปิดที่ 48.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ: ดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 85.73 จุดวิตกไฟเซอร์ลดเป้าหมายจัดส่งวัคซีน
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนีNasdaq ปิดทำนิวไฮโดยได้แรงหนุนจากตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดรวมทั้งความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างไรก็ดีภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากบริษัทไฟเซอร์อิงค์ประกาศลดเป้าหมายการจัดส่งวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในปีนี้ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดราคาหุ้นไฟเซอร์ปิดตลาดร่วงลงกว่า 1.7% ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,969.52 จุดเพิ่มขึ้น 85.73 จุดหรือ +0.29% ขณะที่ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,666.72 จุดลดลง 2.29 จุดหรือ -0.06% ส่วนดัชนีNasdaq ปิดที่ 12,377.18 จุดเพิ่มขึ้น 27.81 จุดหรือ +0.23%
"โอบามา" เล็งถ่ายคลิปโชว์ฉีดวัคซีนโควิดหวังยืนยันเรื่องความปลอดภัย
นายบารัคโอบามาอดีตประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุของสหรัฐรายการหนึ่งว่าเขาจะฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 เมื่อวัคซีนดังกล่าวได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้แล้วและอาจถ่ายคลิปขณะฉีดวัคซีนเพื่อนำไปออกอากาศทางทีวีหรือช่องทางอื่นๆเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนโอบามาเปิดเผยในรายการThe Joe Madison Show ของสถานีวิทยุSiriusXMว่าเหตุที่เขาจะทำเช่นนั้นเป็นเพราะเขาเชื่อในหลักวิทยาศาสตร์และต้องการให้ประชาชนเชื่อมั่นในความปลอดภัยของวัคซีนโดยผลสำรวจเมื่อไม่นานมานี้พบว่ากลุ่มคนผิวสีดูไม่ค่อยกระตือรือร้นที่จะฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 มากนักเมื่อเทียบกับคนกลุ่มอื่นๆอดีตปธน.สหรัฐระบุว่าตนเข้าใจเหตุผลที่กลุ่มคนแอฟริกันอเมริกันมีความไม่แน่ใจเกี่ยวกับวัคซีนขณะเดียวกันเขาก็ได้เชิญชวนให้คนกลุ่มนี้หันมาฉีดวัคซีนต้านโรคโควิดโดยกล่าวว่า "วัคซีนเป็นเหตุผลที่ทำให้เราไม่เป็นโรคโปลิโออีกและเป็นเหตุผลที่ทำให้เราไม่ต้องมาเห็นเด็กๆเสียชีวิตจากโรคหัดและไข้ทรพิษรวมถึงโรคอื่นๆที่เคยกวาดล้างประชากรและชุมชนต่างๆมาแล้ว" ทั้งนี้โมเดอร์นาและไฟเซอร์ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐเพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉินโดยวัคซีนของทั้งสองบริษัทมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดสูงกว่า 90% ตามข้อมูลขั้นต้นจากการทดลองทางคลินิกรองประธานาธิบดีไมค์เพนซ์เปิดเผยระหว่างการหารือทางโทรศัพท์กับผู้ว่าการรัฐต่างๆเมื่อวันจันทร์ว่ากระบวนการแจกจ่ายวัคซีนอาจเริ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าหน่วยงานกำกับดูแลด้านกฎระเบียบของสหรัฐจะเร่งอนุมัติอย่างรวดเร็วให้มีการฉีดวัคซีนครั้งแรกเป็นกรณีฉุกเฉิน "เรามั่นใจว่าการกระจายวัคซีนจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์ซึ่งตรงกับวันที่ 14 ธ.ค. ชาวอเมริกันควรที่จะได้ทราบถึงความช่วยเหลือที่กำลังจะได้รับ" ข้อมูลสรุปการหารือทางโทรศัพท์จากที่ว่าการรัฐวอชิงตันอ้างถึงคำพูดของรองปธน.เพนซ์ที่กล่าวกับบรรดาผู้ว่าการรัฐ
Beige Book ชี้เศรษฐกิจสหรัฐยังคงซบเซาเหตุยอดติดโควิดพุ่งต่อเนื่อง
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟดทั้ง 12 เขตหรือ "Beige Book" เมื่อวานนี้โดยระบุว่าเฟดเกือบทุกเขตรายงานว่าแนวโน้มทางธุรกิจของบริษัทเอกชนยังคงเป็นไปในเชิงบวกแต่บริษัทเหล่านี้มีความเชื่อมั่นลดน้อยลงเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฟดเกือบทุกสาขาระบุว่าในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเศรษฐกิจขยายตัวเล็กน้อยจนถึงปานกลางโดยเฟดใน 4 เขตระบุว่าเศรษฐกิจแทบไม่มีการขยายตัวขณะที่เฟดใน 5 เขตระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในบางภาคส่วนยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดรายงานBeige Book ยังระบุด้วยว่าเฟดฟิลาเดลเฟียและเฟด 3 ใน 4 เขตของแถบมิดเวสต์นั้นตั้งข้อสังเกตว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลงในช่วงต้นเดือนพ.ย. เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นโดยรายงานสรุปว่าเฟดเกือบทุกเขตรายงานว่าแนวโน้มทางธุรกิจของบริษัทเอกชนยังคงเป็นไปในเชิงบวกแต่บริษัทเหล่านี้มีความเชื่อมั่นในเชิงบวกลดลงด้านการจ้างงานนั้นเฟดเกือบทุกเขตรายงานว่าการจ้างงานปรับตัวขึ้นแต่ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงและการฟื้นตัวของการจ้างงานในบางเขตก็ยังคงอ่อนแอนอกจากนี้บริษัทที่มีการจ้างงานนั้นยังคงรายงานถึงความยากลำบากในการดึงดูดหรือรักษาพนักงานไว้ รัฐเท็กซัสเตรียมรับมอบวัคซีนโควิดพร้อมฉีดให้ปชช.กลางเดือนธ.ค.นี้ นายเกร็กแอบบอตต์ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสเปิดเผยว่ารัฐเท็กซัสจะได้รับวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ปริมาณกว่า 1.4 ล้านโดสจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC)นายแอบบอตต์กล่าวว่าวัคซีนจะเริ่มส่งมาถึงเท็กซัสในสัปดาห์ของวันที่ 14 ธ.ค.นี้และจะทำการแจกจ่ายให้กับผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมนายแอบบอตต์ระบุด้วยว่าผู้ที่จะได้รับวัคซีนในช่วงแรกนั้นจะยึดตามหลักเกณฑ์การแจกจ่ายวัคซีน (Vaccine Distribution Principles) ของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดสรรวัคซีนของรัฐหรือExpert Vaccine Allocation Panel โดยอาจมีการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมในปลายเดือนนี้และในเดือนม.ค.ปีหน้านอกจากนี้นายแอบบอตต์กล่าวว่า "รัฐเท็กซัสเตรียมพร้อมสำหรับการรับมอบวัคซีนต้านโรคโควิด-19 และจะแจกจ่ายวัคซีนเหล่านี้อย่างรวดเร็วให้แก่ประชาชนที่ต้องการฉีดวัคซีนโดยสมัครใจ" เมื่อเดือนที่ผ่านมานายแอบบอตต์และสำนักงานสาธารณสุขรัฐเท็กซัสประกาศหลักการแนะนำสำหรับกระบวนการจัดสรรวัคซีนต้านโรคโควิด-19 โดยบ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ที่จะต้องดูแลผู้ป่วยโรคโควิดโดยตรงและประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอื่นๆนั้นจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนทั้งนี้รัฐเท็กซัสมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนที่ผ่านมาซึ่งตัวเลขอย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นว่ารัฐเท็กซัสมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เฉลี่ย 8,372 รายต่อวันในเดือนพ.ย. และเฉลี่ยมากกว่า 4,340 รายต่อวันในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.