Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 3 ธ.ค.63 (HGF)

- Advertisement -

276

- Advertisement -

ทองคำปรับขึ้น จากคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ

คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ย.

ราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,820-1,850ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยมีแรงซื้อเข้ามามากในช่วงกลางคืน เนื่องจากความหวังการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ โดยนายสเตนี โฮเยอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐมีความเห็นว่าสภาคองเกรสน่าจะบรรลุข้อตกลงเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นอกจากนี้สหรัฐประกาศการจ้างงานภาคเอกชน ADPเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 307,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 433,000 ตำแหน่งทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ  775,000 ราย ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ย.ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 56.0 จากระดับ 56.6 ในเดือนต.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,820-1,850ดอลลาร์ โดยตลาดรอติดตามความคืบหน้าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ และการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนพ.ย.ที่จะประกาศในวันศุกร์ โดยมีแนวรับ 1,820 ดอลลาร์ และแนวรับสำคัญ 1,800 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,840 ดอลลาร์ และ 1,850 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

- Advertisement -

Closechg.SupportResistance
1,830.50+15.71,820/1,8001,840/1,850

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
26,150+45026,050/25,80026,300/26,400

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
26,290+5026,190/25,90026,450/26,570

- Advertisement -

แนะนำเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาทองคำ Spot ปรับลงมาที่ 1,800 ดอลลาร์ (GF25,900บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,790 ดอลลาร์ (GF 25,790บาท)

การลงทุนในทองแท่งเน้นลงทุนในระยะยาวและควรแบ่งเงินลงทุนในการทยอยซื้อสะสม แนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,750-1,765 ดอลลาร์

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,829.40+2.401,822/1,8021,842/1,852

แนะนำเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาGOZ20ปรับลงมาที่ 1,802 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,792 ดอลลาร์

เงินบาท

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะอ่อนค่าลง จากประเด็นในประเทศหลังมีรายงานข่าวว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ลักลอบเข้าประเทศได้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากสหรัฐประกาศการจ้างงานภาคเอกชน ADPเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 307,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 433,000 ตำแหน่งสำหรับUSD Futures เดือนธ.ค.63 คาดจะมีแนวรับที่ 30.20 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่30.35 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลล์อ่อนหลังจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐขยายตัวน้อยกว่าคาด

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ธ.ค.) หลังมีรายงานว่าตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลข้อมูลแรงงานที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ซึ่งได้แก่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.22% แตะที่  91.1153 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดบวก $11.3 รับความหวังสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นศก.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ธ.ค.) ขานรับความหวังที่ว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 11.3 ดอลลาร์หรือ 0.62% ปิดที่ 1,830.2 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดบวก 73 เซนต์รับข่าวอังกฤษไฟเขียววัคซีนของไฟเซอร์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ธ.ค.) ขานรับข่าวรัฐบาลอังกฤษอนุมัติให้ใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคนอกจากนี้ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสจะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตต่อไปจนถึงปีหน้ารวมทั้งตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2  สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 73 เซนต์หรือ 1.6% ปิดที่ 45.28 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 83 เซนต์หรือ 1.8% ปิดที่ 48.25 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ: ดาวโจนส์ปิดบวก 59.87 จุดรับความหวังสหรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นศก.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนีS&P500 ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ขานรับความหวังที่ว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งข่าวรัฐบาลอังกฤษอนุมัติให้ใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,883.79 จุดเพิ่มขึ้น 59.87 จุดหรือ +0.20% ขณะที่ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,669.01 จุดเพิ่มขึ้น 6.56 จุดหรือ +0.18% ส่วนดัชนีNasdaq ปิดที่ 12,349.37 จุดลดลง 5.74 จุดหรือ -0.05%

สหรัฐเผยวัคซีนโควิดของ "ไฟเซอร์-โมเดอร์นา" มีผลข้างเคียงแต่ไม่ร้ายแรง
ดร.มอนเซฟสลาอุยหัวหน้าโครงการOperation Warp Speed ซึ่งเป็นโครงการที่มีเป้าหมายให้ชาวสหรัฐได้ฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ภายในสิ้นปีนี้นั้นเปิดเผยว่าวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์และโมเดอร์นานั้นมีความปลอดภัยโดยไม่ได้พบผลข้างเคียงที่สังเกตได้ในบรรดาอาสาสมัครส่วนใหญ่ขณะที่มีอาสาสมัครเพียง 10-15% เท่านั้นที่รายงานผลข้างเคียงที่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 รายงานว่าเกิดรอยแดงและอาการปวดบริเวณที่ฉีดวัคซีนรวมถึงมีไข้รู้สึกหนาวสั่นปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะส่วนทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นาต่างก็ยอมรับว่าวัคซีนของบริษัทอาจมีผลข้างเคียงที่คล้ายกับอาการของโรคโควิด-19 ที่ไม่รุนแรงเช่นอาการปวดกล้ามเนื้อหนาวสั่นและปวดศีรษะดร.สลาอุยแสดงความเห็นดังกล่าวหลังจากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาโมเดอร์นาและไฟเซอร์ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐเพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉินโดยวัคซีนของทั้งสองบริษัทมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดสูงกว่า 90% ตามข้อมูลขั้นต้นจากการทดลองทางคลินิกรองประธานาธิบดีไมค์เพนซ์เปิดเผยระหว่างการหารือทางโทรศัพท์กับผู้ว่าการรัฐต่างๆเมื่อวันจันทร์ว่ากระบวนการแจกจ่ายวัคซีนอาจเริ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าหน่วยงานกำกับดูแลด้านกฎระเบียบของสหรัฐจะเร่งอนุมัติอย่างรวดเร็วให้มีการฉีดวัคซีนครั้งแรกเป็นกรณีฉุกเฉิน   "เรามั่นใจว่าการกระจายวัคซีนจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์ซึ่งตรงกับวันที่ 14 ธ.ค. ชาวอเมริกันควรที่จะได้ทราบถึงความช่วยเหลือที่กำลังจะได้รับ" ข้อมูลสรุปการหารือทางโทรศัพท์จากที่ว่าการรัฐวอชิงตันอ้างถึงคำพูดของรองปธน.เพนซ์ที่กล่าวกับบรรดาผู้ว่าการรัฐทั้งนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) จะประชุมกันในวันอังคารตามเวลาสหรัฐเพื่อตัดสินว่าจะให้วัคซีนกับประชาชนกลุ่มใดก่อนทันทีที่วัคซีนได้รับการอนุมัติให้ใช้จริง
อังกฤษไฟเขียวใช้วัคซีนโควิดของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคได้แล้วตั้งแต่สัปดาห์หน้า
รัฐบาลอังกฤษได้อนุมัติให้มีการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐและบริษัทไบโอเอ็นเทคของเยอรมนีแล้วโดยจะเริ่มแจกจ่ายวัคซีนดังกล่าวได้ในสัปดาห์หน้าซึ่งส่งผลให้อังกฤษเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติใช้วัคซีนของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค  " รัฐบาลได้รับคำแนะนำจากสำนักงานกำกับดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข (MHRA) ให้อนุมัติวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคเพื่อนำไปใช้ในการป้องกันโรคโควิด-19 โดยวัคซีนดังกล่าวจะถูกแจกจ่ายไปทั่วประเทศอังกฤษตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป" แถลงการณ์ของรัฐบาลระบุทางด้านไบโอเอ็นเทคเปิดเผยว่าไบโอเอ็นเทคและไฟเซอร์พร้อมที่จะจัดส่งวัคซีนล็อตแรกให้กับอังกฤษในทันทีขณะที่นายอัลเบิร์ตบอร์ลาประธานและซีอีโอของไฟเซอร์กล่าวว่าการที่MHRA อนุมัติการใช้วัคซีนในครั้งนี้ถือเป็น "ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์" ในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 และการได้รับอนุมัติในครั้งนี้ถือเป็นการบรรลุเป้าหมายของไฟเซอร์นอกจากนี้นายบอร์ลายังได้กล่าวชื่นชมMHRA ที่ทำการประเมินวัคซีนอย่างรอบคอบและตัดสินใจอนุมัติให้ใช้วัคซีนได้ในเวลาที่เหมาะสมเพื่อช่วยปกป้องชาวอังกฤษจากโรคโควิด-19    นอกจากนี้ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคยังได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) เมื่อวานนี้เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉินหากEMA ให้การอนุมัติก็จะส่งผลให้ไฟเซอร์สามารถใช้วัคซีนดังกล่าวในยุโรปได้ก่อนปลายปีนี้

"ไบเดน" ยันยังสานต่อข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่ทรัมป์ทำไว้กับจีน
นายโจไบเดนว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สว่าเขาจะยังไม่ยกเลิกข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่สหรัฐทำไว้กับจีนในทันทีโดยข้อตกลงดังกล่าวเป็นการลงนามระหว่างรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์และรัฐบาลจีนในช่วงต้นปีนี้ภายใต้ข้อตกลงการค้าเฟสแรกนั้นจีนได้ตกลงที่จะซื้อสินค้าและการบริการจากสหรัฐในวงเงินอย่างน้อย 2 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2563-2564 นอกจากนี้ข้อตกลงยังระบุว่าสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% จากสินค้าอุตสาหกรรมของจีนคิดเป็นมูลค่า 2.50 แสนล้านดอลลาร์ในขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าสหรัฐคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์นายไบเดนกล่าวว่าเขาจะยังไม่ยกเลิกข้อตกลงการค้าเฟสแรกในทันทีพร้อมกับกล่าวว่ายุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดในการทำข้อตกลงกับจีนคือการดึงบรรดาชาติพันธมิตรของจีนให้เข้าร่วมกับสหรัฐนอกจากนี้นายไบเดนกล่าวว่าเขาจะดำเนินนโยบายที่พุ่งเป้าไปที่พฤติกรรมที่เป็นอันตรายของจีนซึ่งรวมถึงการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาการทุ่มตลาดการอุดหนุนบริษัทเอกชนอย่างผิดกฎหมายและการบังคับให้มีการถ่ายโอนเทคโนโลยีจากบริษัทสหรัฐให้กับบริษัทจีน
 


ขอขอบคุณ  : 
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More