Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 25 พ.ย.63 (YLG)

- Advertisement -

224

- Advertisement -

คำแนะนำ :

เน้นการซื้อขายเก็งกำไรระยะสั้น เปิดสถานะขายในบริเวณ 1,840-1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากยืน 1,863 ดอลลาร์ต่อออนซ์) พิจารณาซื้อคืนเพื่อทำกำไรช่วงสั้นหากไม่หลุดแนวรับ 1,821-1,805 ดอลลาร์ต่อออนซ์  

แนวรับ : 1,794 1,779 1,765  แนวต้าน : 1,821 1,833 1,847

สรุป

ราคาทองคำวันนี้ยังไม่หยุดการสร้างระดับต่ำสุดใหม่จากวันก่อนหน้า แต่การอ่อนตัวลงค่อนข้างจำกัดแสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้นเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ทำให้ประเมินแนวต้านระยะสั้นนั้นอยู่ในบริเวณ 1,840-1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่ผ่านราคายังคงมีโอกาสที่อ่อนตัวลงจะทดสอบแนวรับบริเวณ 1,821-1,805 ดอลลาร์ต่อออนซ์

- Advertisement -

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐต่ำกว่าคาดในพ.ย.  ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 96.1 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 101.4 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 98.0
  • (+) Ifo เผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีร่วงเป็นเดือนที่ 2  Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีร่วงลงสู่ระดับ 90.7 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 แต่ดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 90.2 จากระดับ 92.5 ในเดือนต.ค.
  • (+) ดอลล์อ่อน นลท.ขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังการเมืองสหรัฐชัดเจน  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีสหรัฐเป็นไปอย่างราบรื่น  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.31% สู่ระดับ 92.2249 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9119 ฟรังก์ จากระดับ 0.9122 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3004 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3079 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 104.56 เยน จากระดับ 104.49 เยน  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1883 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1840 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3352 ดอลลาร์
  • (-) ดาวโจนส์พุ่งทะลุแนว 30,000 จุด รับการเมืองสหรัฐชัดเจน-วัคซีนคืบหน้า  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 30,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) ขานรับความชัดเจนของทิศทางการเมืองสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า นางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,046.24 จุด เพิ่มขึ้น 454.97 จุด หรือ +1.54% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,635.41 จุด เพิ่มขึ้น 57.82 จุด หรือ +1.62% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,036.79 จุด เพิ่มขึ้น 156.16 จุด หรือ +1.31%
  • (-) “เอสแอนด์พี”เผยราคาบ้านสหรัฐพุ่งขึ้น 7% ในเดือนก.ย.  ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 7% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2557 หลังจากเพิ่มขึ้น 5.8% ในเดือนส.ค.  ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 5.3% ในเดือนส.ค.
  • (-) บิตคอยน์พุ่งไม่หยุด ล่าสุดทะลุ 19,400 ดอลลาร์ จ่อทุบนิวไฮใกล้ 20,000  บิตคอยน์พุ่งทะลุระดับ 19,000 ดอลลาร์ในวันนี้ ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี  ณ เวลา 23.08 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ทะยานขึ้น 1,202.75 ดอลลาร์ หรือ 6.59% สู่ระดับ 19,434 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของ CoinDesk  ทั้งนี้ บิตคอยน์นับเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ทำราคาดีที่สุดในปีนี้ โดยทะยานขึ้นถึง 160% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ขณะที่ในเดือนนี้ ราคาของบิตคอยน์ได้พุ่งขึ้นเกือบ 40%  ขณะนี้มูลค่าตลาดของบิตคอยน์พุ่งแตะ 3.559 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าระดับ 3.318 แสนล้านดอลลาร์ที่ทำไว้ในเดือนธ.ค.2560 ซึ่งขณะนั้นบิตคอยน์ทะยานทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 19,783 ดอลลาร์ ก่อนที่จะทรุดตัวลงสู่ระดับ 3,122 ดอลลาร์ในปีต่อมา  อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กล่าวว่า การดีดตัวของบิตคอยน์ในครั้งนี้แตกต่างจากในอดีต เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากกระแสตอบรับที่คึกคักจากกลุ่มบริษัทฟินเทค และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาด เช่น พอล ทิวดอร์ โจนส์ และสแตนลีย์ ดรักเคนมิลเลอร์ โดยแตกต่างจากในปี 2560 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายย่อย

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More