ทองคำปรับขึ้นแรงทำจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือน
คืนนี้ 1 ทุ่มครึ่งติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ
แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับลดลง
- ราคาทองคำ Spotเมื่อวานปรับขึ้นแรงทำจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือน เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เนื่องจากคาดการณ์ว่าโจ ไบเดนมีโอกาสสูงที่จะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 ซึ่งมีนโยบายการคลังขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ นอกจากนี้การประชุมธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% และประกาศเพิ่มวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรอีก 1.50 แสนล้านปอนด์ สู่ระดับ 8.95 แสนล้านปอนด์ เพื่อรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากเริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบ 2 ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.ถึงวันที่ 2 ธ.ค. ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิม
- คืนนี้เวลา 19.30 น. สหรัฐจะประกาศการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 595,000 ตำแหน่ง หลังจากเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 661,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานเดือนต.ค. ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ7.7% จาก 7.9% ในเดือนก.ย.
- แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับลดลง เนื่องจากแรงเทขายทำกำไรหลังจากที่ปรับขึ้นแรงเมื่อคืนโดยแนวรับที่ 1,900 ดอลลาร์ และ 1,880 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,950ดอลลาร์ และ 1,960 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,948.30 | +45.1 | 1,920/1,900 | 1,950/1,960 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
28,100 | +300 | 28,050/27,850 | 28,400/28,500 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
28,580 | +420 | 28,200/28,000 | 28,540/28,640 |
นักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไร สำหรับการเปิดสถานะซื้อรอบใหม่แนะนำที่ราคาทอง Spot1,920 ดอลลาร์ (GF 28,200บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่1,900 ดอลลาร์ (GF 28,000บาท)
การลงทุนในทองแท่งสำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรแนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,880-1,900 ดอลลาร์
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,952.30 | +31.10 | 1,925/1,905 | 1,955/1,965 |
สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไร การเปิดสถานะซื้อรอบใหม่แนะนำที่ราคาGOZ201,905 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,895 ดอลลาร์
เงินบาท
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้นทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ซึ่งUSD Futures เดือนธ.ค.63คาดจะมีแนวรับที่ 30.80บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่31 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนค่าหลังเฟดตรึงดอกเบี้ยใกล้ 0%
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (5 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.94% แตะที่ 92.5269
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดพุ่ง $50.6 ขานรับอังกฤษเพิ่มวงเงินซื้อบอนด์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 50 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 พ.ย.) ขานรับธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศเพิ่มวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรโดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์นอกจากนี้การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 50.6 ดอลลาร์หรือ 2.67% ปิดที่ 1,946.8 ดอลลาร์/ออนซ์ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 2563 สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.298 ดอลลาร์หรือ 5.43% ปิดที่ 25.191 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดลบ 36 เซนต์วิตกโควิด-ล็อกดาวน์ฉุดดีมานด์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (5 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 36 เซนต์หรือ 0.9% ปิดที่ 38.79 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 30 เซนต์หรือ 0.7% ปิดที่ 40.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 542.52 จุดรับคาดการณ์รีพับลิกัน-เดโมแครตแบ่งกันครองสภา
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (5 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งนี้จะไม่มีพรรคใดครองอำนาจเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรสโดยพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มที่จะยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาซึ่งจะขัดขวางไม่ให้นโยบายปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลของนายโจไบเดนผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,390.18 จุดเพิ่มขึ้น 542.52 จุดหรือ +1.95% ขณะที่ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,510.45 จุดเพิ่มขึ้น 67.01 จุดหรือ +1.95% ส่วนดัชนีNasdaq ปิดที่ 11,890.93 จุดเพิ่มขึ้น 300.15 จุดหรือ +2.59%
“ทรัมป์” เตรียมเรียกร้องนับคะแนนใหม่ในวิสคอนซิน
นายบิลสเตเปียนผู้จัดการฝ่ายรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์กล่าวว่าปธน.ทรัมป์จะเรียกร้องให้มีการนับคะแนนเลือกตั้งใหม่อย่างเป็นทางการในรัฐวิสคอนซินหลังจากพบว่านายโจไบเดนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตมีคะแนนนำปธน.ทรัมป์เล็กน้อยขณะที่เจ้าหน้าที่ใกล้เสร็จสิ้นการนับคะแนนจากบัตรเลือกตั้งในรัฐดังกล่าว “มีรายงานเกี่ยวกับการทำผิดกฎระเบียบในหลายเคาน์ตีในรัฐวิสคอนซินซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องของผลการนับคะแนนโดยท่านประธานาธิบดีเตรียมเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่และเราจะดำเนินการดังกล่าวโดยทันที” นายสเตเปียนกล่าวสำนักข่าวNBC ระบุว่าผลการนับคะแนน99%พบว่านายไบเดนมีคะแนนนำปธน.ทรัมป์มากกว่า20,000คะแนนโดยนายไบเดนได้รับคะแนนเสียง49.4%ขณะที่ปธน.ทรัมป์ได้รับ48.9%ทั้งนี้รัฐวิสคอนซินอยู่ในSwing State หรือBattleground State ซึ่งเป็นรัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันโดยทั้งนายไบเดนและปธน.ทรัมป์ต่างก็ต้องการคว้าชัยชนะในรัฐนี้เนื่องจากมีจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง10เสียง
ไบเดนชิงเปิดเว็บไซต์รอรับตำแหน่งปธน.สหรัฐคนใหม่แล้ว
สื่อต่างประเทศรายงานว่านายโจไบเดนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตได้สร้างเว็บไซต์buildbackbetter.com เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐแล้วเนื้อหาบนเว็บไซต์ดังกล่าวระบุว่า “การนับคะแนนในหลายรัฐทั่วประเทศยังคงดำเนินไปในขณะนี้ทีมงานเพื่อการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งประธานาธิบดีจะยังคงเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อให้คณะบริหารของนายไบเดนและนางคามาลาแฮร์ริสสามารถทำหน้าที่ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีสหรัฐได้ทันทีในวันแรกของการเข้ารับตำแหน่ง” ข้อมูลจากฟ็อกซ์นิวส์ระบุว่าขณะนี้นายไบเดนมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งสหรัฐหรือElectoral Vote อยู่ที่ 264 คะแนนนำหน้าโดนัลด์ทรัมป์ซึ่งมี 214 คะแนนทั้งนี้ไบเดนต้องการอีกเพียง 6 คะแนนเท่านั้นก็จะได้คะแนนElectoral Vote เกินกว่ากึ่งหนึ่งหรือ 270 คะแนนจากทั้งหมด 538 คะแนนที่จะชนะการเลือกตั้ง
หยวนพุ่งรับความหวังสหรัฐ-จีนปลอดสงครามการค้าหากไบเดนชนะเลือกตั้ง
เงินหยวนดีดตัวขึ้นในวันนี้หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่านายโจไบเดนผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐจะคลี่คลายลงนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าชัยชนะของนายไบเดนจะเป็นผลดีต่อสกุลเงินหวนเนื่องจากมีแนวโน้มน้อยลงที่ไบเดนจะทำสงครามการค้ายืดเยื้อกับจีนโดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้นความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าได้สร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินหวนของจีน
ทั้งนี้นายไบเดนได้รับชัยชนะในรัฐมิชิแกนและวิสคอนซินซึ่งเคยเป็นรัฐที่ทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งปี 2559 ส่งผลให้นายไบเดนมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งสหรัฐหรือElectoral Vote เพิ่มขึ้นเป็น 264 คะแนนแซงหน้าปธน.ทรัมป์ซึ่งมีคะแนน 214 คะแนนโดยนายไบเดนต้องการอีกเพียง 6 คะแนนเท่านั้นก็จะได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งหรือ 270 คะแนนจากทั้งหมด 538 คะแนนเพื่อชนะการเลือกตั้ง
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.