- Advertisement -

หลังจากที่ ราคาทองคำ ขึ้นไปทดสอบแนว 2,000 ดอลลาร์ ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่แล้ว แต่ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ ทำให้ถูกเทขายจนราคาร่วงลงมาเกือบ 5% และตลาดกำลังดิ้นรนเพื่อหาโมเมนตั้มขาขึ้นครั้งใหม่

ทั้งนี้ Commerzbank มองว่า ทองคำยังมีแรงหนุนอย่างดี ตลอดช่วงที่เหลือของปี

ทั้งนี้ Commerzbank ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ทองคำในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังจากราคาได้ปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงไตรมาสแรก โดยมองว่า ราคาทองคำ มีค่าเฉลี่ยปีนี้ที่ประมาณ 1,900 ดอลลาร์ และ ราคาจะพุ่งกลับไปที่ 2,000 ดอลลาร์ ในไตรมาสที่สอง

Carsten Fritsch, precious metals analyst at Commerzbank กล่าวว่า แม้จะเห็นแรงขายอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทองคำยังเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีการขยายตัวสูงสุดตั้งแต่ต้นปี

- Advertisement -

โดยทำได้ดีกว่าทั้ง พันธบัตร และ ตราสารทุน ซึ่งทองคำจึงเป็นที่ต้องการ จาก ETF ในฐานะการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

ในทางกลับกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น ไม่สามารถหยุดการขึ้นราคาทองคำได้ ทำได้เพียงชะลอตัวเท่านั้น

เมื่อพิจารณาความต้องการด้านการลงทุน Carsten Fritsch ชี้ให้เห็นว่า กองทุน ETF ซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำ ได้เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 14 สัปดาห์ โดยในไตรมาสแรก การถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 269 ตัน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ไตรมาสที่สามของปี 2020

Carsten Fritsch ยังกล่าวว่า กองทุนได้ป้องกันความเสี่ยด้วยการซื้อทองคำเพิ่มขึ้น แม้ราคาจะปรับลดลง เนื่องจากเฟดมีแผนขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก เนื่องจากเห็นว่าเส้นอัตราผลตอบแทนได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในเดือนที่ผ่านมา ทำให้เกิดความกังวลว่า นโยบายการเงินที่แข็งก้าวของเฟด อาจผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย

ทั้งนี้ ราคาทองคำได้แรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า เฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมสองครั้งถัดไป แต่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ที่ระดับที่สูงขึ้นในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง

- Advertisement -

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดข้อสงสัยว่า อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นจริง ๆ จะเท่ากับที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าหรือไม่

Carsten Fritsch กล่าวว่า ทั้งทองคำ และ ดอลลาร์ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าดึงดูดและสามารถดำเนินต่อไปในทิศทางเดียวกับที่สงครามของ รัสเซีย กับ ยูเครน ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก และเมื่อมองไปยังอนาคต อัตราเงินเฟ้อและสงครามเป็นสองปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดที่จะผลักดันราคาทองคำ

อย่างไรก็ตาม หลังสิ้นสุดสงคราม ความสนใจในทองคำในฐานะที่หลบภัยมีแนวโน้มลดลง และ ETF ทองคำจะเริ่มถูกขายออกบางส่วน และราคาทองคำจะปรับตัวลดลง จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น

ที่มา : Kitco.com

- Advertisement -