หลังจากที่ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นเหนือ 1,870 ดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6.2% ต่อปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่สำคัญที่สุดในรอบกว่าสามทศวรรษ ทำให้นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ จาก Société Générale ธนาคารสัญชาติฝรั่งเศส ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการปรับขึ้นของราคาทองคำตลอดไตรมาสแรกของปี 2022 เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
โดยมองว่า ราคาทองคำโดยเฉลี่ยในช่วงไตรสมาสแรกของปีหน้าจะอยู่ที่ประมาณ 1,950 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.5% จากราคาปัจจุบัน โดยราคาสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเดือนธันวาคมซื้อ อยู่ที่ 1,866.90 ดอลลาร์
ส่วนเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ Société Générale คาดว่าจะลดลงจากระดับปัจจุบัน โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 4.4% ในปีนี้และ 3.7% ในปีหน้า โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ราคาทองคำน่าจะปรับลดลงตามไปด้วย เพราะจะเป็นช่วงที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก่อนดอกเบี้ยคงจะกลับมาเป็นบวกอีกครั้งภายในสิ้นปี 2565
อย่างไรก็ดีหากว่าสิ่งที่คาดการณ์กลับตรงกันข้ามทั้งหมด โดยอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงอยู่และกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว ราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นเหนือ 2,000 ดอลลาร์ในไตรมาสที่สองและยังคงเพิ่มสูงไปขึ้นจนถึงปี 2023
นอกจากนั้น นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ จาก Société Générale ยังให้จับตาการเคลื่อนไหวของ กองทุน ETF ทองคำ โดยย้ำว่าความต้องการของกองทุน ETF ยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อราคาทองคำ โดยคาดว่าการขายออกจะหยุดลง และจะเริ่มเห็นการซื้อเข้าในระดับปานกลางภายในสิ้นปีนี้ และในปี 2022 คาดว่า ETF จะซื้อทองคำทั้งหมด 300 ตัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นช่วงครึ่งปีแรก
ซึ่งความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ นี่จะเพียงพอแล้วที่จะผลักดันราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าการซื้อทองคำเข้าพอาร์ตจะยังต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับปี 2019 และ 2020 ที่ระดับ 408 ตัน และ 874 ตัน ตามลำดับ
นอกจากนั้นยังมองว่าธนาคารกลางจะมีความต้องการทองคำมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยง เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ และหนี้สหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรองกำลังสูญเสียความน่าเชื่อถือ
อ้างอิง : Kitco
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.