- Advertisement -

ตลาด “ทองคำ” ยังคงมีความเสี่ยง แม้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำจะฟื้นตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดที่ $1,730 ได้

โดยนักวิเคราะห์มองว่า ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อในสัปดาห์หน้า (10-14 ต.ค.) จะเป็นปัจจัยชี้ขาดทิศทางราคาทองคำในช่วงปลายปี

หลังจากการขาดทุนติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือน ระหว่างเดือน เม.ย. ถึง ก.ย. ราคาทองคำได้เริ่มต้นไตรมาสที่ 4 ด้วยความแข็งแกร่ง โดยราคาทองคำไต่ขึ้นจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในตลาดการเงิน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่ข่าวเชิงลบยังคงเป็นเรื่องนโยบายของเฟด ที่จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

เหตุการณ์ความเสี่ยงครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น ช่วยให้ทองคำฟื้นตัว

- Advertisement -

Edward Moya senior market analyst ของ OANDA กล่าวกับ Kitco News ว่า

เรามีแนวโน้มที่จะเห็นการดำเนินการฉุกเฉินจากธนาคารกลางมากขึ้น หลังมีสิ่งบ่งชี้ว่า มีความเสี่ยงในเศรษฐกิจโลกสูงขึ้น โดยก่อนหน้านี้สหราชอาณาจักร และ ญี่ปุ่น ได้เข้าแทรกแทรงตลาดการเงิน เพื่อพยุงค่าเงินของตนเองไม่ให้ทรุดตัวกว่าที่เป็น

อย่างไรก็ดี ทุกคนยังรอดูมุมมองของเฟด ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะรายงานการจ้างงาน เดือน ก.ย. ที่ประกาศไปเมื่อวันศุกร์ ยืนยันอีกครั้งว่า สถานการณ์การจ้างงานของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 3.5% ซึ่งไม่ใช่ระดับที่เฟดจะรีบเปลี่ยนนโยบาย

ทำให้รายงานของ CME FedWatch Tool ตลาดคาดการณ์ว่า 78% เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือน พ.ย.

นักวิเคราะห์เตือนว่า แม้สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำจะพลิกกลับมาเป็นขาขึ้น อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวอาจจะพลิกกลับอีกครั้ง หากการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่อง

- Advertisement -

Everett Millman precious metals expert ของ Gainesville Coins กล่าวกับ Kitco News ว่า

การปรับตัวเพิ่มขึ้นอาจเป็นช่วงเวลาระยะสั้น เพราะเฟดสามารถพลิกกลับ และชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ซึ่งเราได้เห็นจากธนาคารกลางอื่นๆ ที่เปลี่ยนทิศทางแล้ว แต่ธนาคารกลางสหรัฐไม่น่าจะพลิกกลับอย่างรวดเร็วเพราะจะทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กร

หากอัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลง ก็จะต้องใช้เวลาอีกระยะ กว่าที่เฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เพราะเฟดอาจกังวลเกี่ยวกับการรับมือเงินเฟ้อมากกว่าที่ควรจะเป็น และนี่จะเป็นจุดอ่อนที่ร้ายแรงสำหรับราคาทองคำในระยะสั้น

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยหนุนทองคำ ก็คือ ความตึงเครียดทางการเมือง โดยเฉพาะสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ทำให้ภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงวิกฤตด้านพลังงาน

นอกจากนั้น มีเรื่องของการปริมาณการซื้อขึ้นที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ซึ่งในช่วงปลายปีต่อช่วงต้นปี ราคาทองคำมักจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลในอินเดีย ตามด้วยเทศกาลแต่งงานใน ตุรกี และ จีน มีการนำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก

อย่างไรก็ดี ในสัปดาห์หน้านักลงทุนยังต้องเฝ้าติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ โดยรายงาน CPI ประจำเดือน ก.ย. จะเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี หากตัวเลขดีขึ้น อาจจะช่วยให้เฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ย และช่วยให้ราคาทองคำขยับสูงขึ้น ในทางกลับกัน หากตัวเลขยังออกมาแย่กว่าเดือนที่ผ่านมา อาจจะเห็นทองคำถูกเทขายอีกรอบ

Edward Moya กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังคงมีการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะชะลอนโยบาย หากตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ในแนวเดียวกัน หรือลดลง และนี่น่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ครั้งสุดท้ายจากเฟด หลังจากเดือน พ.ย. เฟดอาจจะพิจารณาปรับลดลง

ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อประจำปีของสหรัฐฯ ในเดือน ก.ย. จะอยู่ที่ 8.1% หลังจากเพิ่มขึ้นที่ 8.3% ในเดือนส.ค. ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานต่อปีคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.5% จาก 6.3%

อ้างอิง : Kitco news

- Advertisement -