Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ทองคำยังน่าห่วง จับตาจะแกร่งมากพอที่จะปักหลักเหนือ $1,700 ได้หรือไม่

- Advertisement -

702

- Advertisement -

ราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงเปิดตลาดลดลงอีก 35 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำแรงกดดันหลักมาจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ยังสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 20 ปี และได้ดึงเม็ดเงินจากตลาดทองคำไปเป็นจำนวนมาก

ซึ่งในสัปดาห์หน้า (18-22 ก.ค.) นักวิเคราะห์ยังคงจับตาการเคลื่อนไหวของตลาดทองคำใกล้ชิด เนื่องจากระดับ 1,700 ดอลลาร์ ต่อออนซ์เป็นพื้นที่อันตรายสำหรับทองคำ

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปิดตัวลงมากกว่า 2% และเป็นการปิดปรับตัวลดลง 5 สัปดาห์ติดต่อกัน ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว ปัจจัยหลักที่อยู่เบื้องหลังการลดลง 35 ดอลลาร์ คือรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน มิ.ย.ของสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้น 9.1% และนำไปสู่การคาดการณ์ว่าเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม

ก่อนการเผยข้อมูลตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. นักวิเคราะห์ต่างมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% แต่เมื่อตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงกว่าเดือน พ.ค. ที่ระดับ 8.6% ทำให้ตลาดคาดว่ามีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยถึง 1% ที่สำคัญธนาคารแห่งประเทศแคนาดา สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการเพิ่มขึ้นดอกเบี้ย 1% โดยมองว่าอัตราเงินเฟ้อในระยะสั้นจะยังคงสูงต่อเนื่อง

- Advertisement -

ทั้งนี้ การคาดการณ์ว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเป็น 1% ทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ซื้อขายที่ระดับเหนือ 109 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี เพิ่มขึ้น และทองคำร่วงลง และซื้อขายต่ำกว่าระดับ 1,700 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ในช่วงสั้น ๆ

Daniel Hynes senior commodity strategist ANZ’s กล่าวว่า

ราคาทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน เนื่องจากนักลงทุนได้หันไปถือเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางความเสี่ยงในตลาดต่างๆซึ่งการเพิ่มขึ้นของ CPI อาจทำให้การตัดสินใจของเฟดเข้มงวดขึ้นเพื่อดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่อีกครั้งในปลายเดือนนี้ ขณะที่กองทุน ETF ทองคำได้ลดการถือครองลง 29 ตันในสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะที่ Bart Melek global head of commodity strategy TD Securities กล่าวกับ Kitco News ว่า

ไม่ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. ที่ระดับ 1% หรือ 0.75% เฟดจะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหาและจะทำให้เฟดต้องใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด ซึ่งเป็นผลเสียต่อทองคำ

- Advertisement -

อย่างไรก็ตาม Bart Melek มองว่า แต่ในท้ายที่สุดเฟดจะต้องปรับลดนโยบายการเงินให้ผ่อนคลายลง และจะถึงเวลาของทองคำที่จะกลับมาพุ่งแรงอีกครั้ง

จนถึงขณะนี้ เริ่มมีหลายคนสงสัยว่า ทำไมพื้นที่ 1,700 ดอลลาร์ ถึงเป็นโซนอันตรายสำหรับทองคำ

นักวิเคราะห์กล่าวว่า เนื่องจากราคาทองคำไม่ได้ซื้อขายต่ำกว่า 1,700 ดอลลาร์ เป็นเวลานานมากแล้ว จึงไม่มีแนวรับที่ต่ำกว่าระดับนี้มากนัก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการเทขายที่มากขึ้นกว่าเดิมจึงอาจรออยู่

Everett Millman precious metals expert Gainesville Coins  กล่าวว่า

ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงกว่าที่คาด ติดต่อกันหลายสัปดาห์ และความเสี่ยงด้านลบยังคงค่อนข้างสูง ในระยะสั้นทองคำมีโอกาสจะลงไปทดสอบระดับ 1,600-1,550 ดอลลาร์ ได้

ทั้งนี้ ตลาดจะใช้เวลาเพื่อรอดูการตัดสินใจของเฟดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยมากน้อยเพียงไร ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง อย่างไรก็ ดีการปรับตัวลงของทองคำในรอบนี้ ไม่ได้เปลี่ยนแนวโน้มของทองคำ ที่จะกลับมาพุ่งสูงขึ้นในช่วงปลายปี

ขณะที่ Bob Haberkorn senior commodities broker RJO Futures กล่าวว่า

ราคา 1,700 ดอลลาร์เป็นจุดวิกฤตสำหรับทองคำ และทองคำจะต้องดิ้นรนในสภาพแวดล้อมนี้ และยิ่งหากเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 1% จะยิ่งส่งผลกระทบต่อทองคำ

ด้าน Bart Melek มองว่ากำลังจับตาดูที่ระดับ 1,679 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นแนวรับใหญ่ ขณะที่แนวต้านอยู่แถว 1,818-1,812 ดอลลาร์

ส่วนข้อมูลที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า

ยังคงเป็นความคืบหน้าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ดี ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่มีการเคลื่อนไหวจากเจ้าหน้าที่เฟด และอาจจะถูกปิดปากเงียบไปจนถึงการประชุม FOMC ในวันที่ 27 กรกฎาคม

แต่วันพฤหัส ต้องติดตามการประชุมของ ECB ที่จะมีการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะขึ้นในอัตราเท่าไร เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More