Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ชี้ทรัมป์ ขู่จีนแค่ทำราคาทองคำสะดุ้ง จับตา NonFarm สะท้อนศก.สหรัฐ

- Advertisement -

0 408

- Advertisement -

ราคาทองคำดีดตัวรับ “โดนัลด์ ทรัมป์” จ้องเล่นงานจีน ต้นตอไวรัส โควิด- 19 ผอ.ศูนย์วิจัยฯ ชี้น่าจะแค่คำขู่ เพื่อหวังผลทางการเมือง แนะจับตาการผ่อนคลายล็อคดาวน์ และการเคลื่อนไหวของเฟด ที่จะส่งผลต่อ ศก. และตัวเลข NonFarm โดยตรง คาดกรอบราคาสัปดาห์นี้ เคลื่อนไหวในแนวเดิม 1,670-1,720 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับ-แนวต้าน ที่แข็งแรงมาก

มาสำรวจประเด็นข่าว ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ หลาย ๆเรื่อง ยังคงสืบเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ซึ่งแม้ว่าภาพรวมจะดูขึ้นตามลำดับ แต่ก็ยังทำให้มีประเด็นอื่น ๆ แตกย่อยออกมามากมาย โดยเฉพาะประเด็นที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ขู่ที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มขึ้น เพื่อตอบโต้ที่จีนเป็นต้นตอของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงพยายามจะหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อเป็นการตอบโต้จีน ทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลว่า อาจจะเป็นชนวนให้เกิดสงครามการค้าขึ้นอีกรอบ

ประเด็นนี้ทำให้ราคาทองสะดุ้งดีดตัวขึ้นเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ และส่งผลมาถึงช่วงเช้าวันนี้ในตลาดเอเชีย โดยราคาทองคำได้พุ่งขึ้นไปแตะระดับ 1,705 ดอลลาร์ แต่ในความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นเพียงการสร้างข่าวเพื่อหวังผลการเลือกตั้งในช่วงปลายปีมากกว่า เพราะหากสหรัฐจะเปิดศึกรอบใหม่จริงในช่วงนี้ ผลเสียน่าจะตกอยู่กับชาวอเมริกันมากกว่าเพราะสินค้าอุปโภคส่วนใหญ่มาจากจีน ซึ่งจะทำให้เป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้บริโภคโดยตรง ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวกับ เว็บไซต์ GoldAround.com

GOLD COIN
GOLD COIN

แต่ประเด็นที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ คงหนี้ไม่พ้นเรื่องของการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของสหรัฐอเมริกา ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะเชื่อว่าจะส่งผลต่อตัวเลขทางเศรษฐกิจโดยตรง โดยเฉพาะตัวเลข NonFarm หรือ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือน เม.ย. ที่จะมีการประกาศในช่วงปลายสัปดาห์นี้ หากตัวเลขออกดีขึ้น ก็จะส่งผลต่อราคาทองคำอย่างแน่นอน

- Advertisement -

นอกจากนั้น ประเด็นเรื่องของการเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ก็ยังคงต้องให้ความสำคัญ แม้ว่าผลการประชุมเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาจะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่ประธานเฟดได้ระบุชัดเจนว่า

ห่วงเรื่องของเศรษฐกิจในไตรมาสสอง ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยเฟดจะเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด และจะพยายามทำให้ไม่ให้ทุกอย่างเลวร้ายลงไป

ทำให้หลายฝ่ายต่างเฝ้าดูว่า หลังจากนี้ เฟดจะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากที่ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงินไม่จำกัด (Unlimited) เพื่อรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของ COVID-19 ไปแล้ว

ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ ยังได้ให้มุมมองต่อกรอบการเคลื่อนไหวราคาทองคำในสัปดาห์นี้ (4-11 พ.ค.) ว่า ราคาคงจะยังอยู่ในแนวเดิม คือ แนวต้านที่ 1,720 ดอลลาร์ และแนวรับที่ 1,670 ดอลลาร์

ซึ่งเป็นจุดแนวต้านและรับที่แข็งแรงมาก โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำได้เข้าไปทดสอบทั้งสองจุดนี้ แต่ไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ ก่อนจะกลับมาเคลื่อนไหวในแนว 1,690-1,705 ดอลลาร์ และคาดว่า กรอบดังกล่าวจะมีผลต่อทิศทางราคาทองคำในอนาคต

- Advertisement -

หากทรุดมาแตะ 1,670 ดอลลาร์ ก็อาจจะลงต่อ หรือหากขึ้นแตะ 1,720 กอลลาร์ ราคาก็อาจจะไปต่อ

อย่างไรก็ดี ขอฝากให้ติดตามการเคลื่อนไหวของกองทุน SPDR ซึ่งตลอดทั้งเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ได้ซื้อเข้าตลอดเมื่อราคามีการย่อตัวลงมา และเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ ยังซื้อเข้าอีก 11 ตัน โดยยังไม่มีการเทขายออกมา ซึ่งจะต้องจับตามองว่าจะเทขายมาออกมาเมื่อไร ซึ่งอาจจะส่งผลต่อราคาทองคำได้ ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวกับ เว็บไซต์ GoldAround.com

ส่วนเรื่องของผลกระทบจากไวรัส โควิด-19 ต่อวงการค้าทองคำนั้น ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ในภาพรวมถือว่าผ่อนคลายในระดับหนึ่ง การส่งออกทำได้มากขึ้นประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังคงไม่ปกติ ซึ่งคงต้องรอดูมาตรการผ่อนคลายล็อคดาวน์ โดยเฉพาะเรื่องการขนส่งจากประเทศหลัก ๆ ในยุโรป รวมถึง สิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นพื้นที่หลักที่ประเทศไทยส่งทองคำออกไป เพราะแม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงแต่ในภาพรวมปริมาณผู้ติดเชื้อยังสูงอยู่

ขอขอบคุณ ศูนย์วิจัยทองคำ

- Advertisement -

- Advertisement -

Leave A Reply

Your email address will not be published.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More