- Advertisement -

แม้ว่าในช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคาทองคำจะขึ้นมาแตะ $1,903 แต่ไม่สามารถยืนได้ ก่อนจะถูกเทไปเคลื่อนไหวแถวเส้นค่าเฉลี่ยแนว $1,890

โดยนักวิเคราะห์หลายค่ายมองว่า นักลงทุนระมัดระวังการถือสถานะ ก่อนจะประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ รวมถึง การประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์หน้า

Suki Cooper precious metals analyst Standard Chartered กล่าวว่า ราคาทองคำพยายามจะยืนเหนือ 1,900 ดอลลาร์ แต่ในระยะสั้นมองว่า ที่ 1,900 ดอลลาร์ จะเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่ง อาจจะยากที่จะผ่านไปได้ อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวของราคาในระดับนี้จะเป็นแนวโน้มที่ดี สำหรับการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำในครึ่งหลังของปี 2564

ทั้งนี้ ราคาทองคำได้แรงหนุนจากการคาดการณ์เงินเฟ้อที่สูงขึ้น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง แต่สิ่งที่นักลงทุนหวั่นเกรงและจับตามองใกล้ชิดคือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะลดวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการ QE ( QE Tapering หรือ การปรับลดเม็ดเงินที่ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการ QE ของสหรัฐฯ ) ในไม่ช้านี้

โดยเบื้องต้น ทุกคนจับจ้องไปที่การประชุม FOMC ในช่วงกลางเดือน มิ.ย. ซึ่งคาดว่าจะมีการนำข้อมูลเรื่องการจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อ มาพูดคุยกันเบื้องต้น ก่อนที่ไปพิจารณาอีกครั้งในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ Jackson Hole ในเดือน สิงหาคม ซึ่งจะเป็นครั้งสำคัญ และอาจจะมีข้อสรุปเกี่ยวกับการทำ QE Tapering

- Advertisement -

อย่างไรก็ดี ยังมีอีกปัจจัยที่ยังทำให้ราคาทองคำยังคงยืนได้อย่างแข็งแกร่ง โดยในเดือน เม.ย. มีปริมาณความต้องการทองคำของธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ที่ได้กลับซื้อสุทธิเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน มียอดซื้อสุทธิประจำปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 168 ตัน โดยเฉพาะประเทศฮังการี ได้ซื้อเพิ่ม 68 ตัน ทำให้ทองคำสำรองเพิ่มขึ้น 3 เท่า

ในขณะที่ผู้ซื้อเดิม เช่น คาซัคสถาน และอุซเบกิสถาน ยังคงเพิ่มทองคำในฐานะทุนสำรอง ในเดือน เมษายน ส่วนประเทศตุรกี ได้หวนกลับมาเป็นผู้ซื้อ หลังจากเป็นผู้ขายในช่วงห้าเดือนที่ผ่านมา โดยเพิ่ม 13.4 ตัน ในเดือน เมษายน รวมถึงประเทศไทย ที่ได้เพิ่มทองคำสำรอง 43.5 ตัน เป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019

ส่วนจีนนำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นเป็น 110.8 ตัน โดยเมื่อ เม.ย. 2020 นำเข้าเพียง 4.2 ตันเท่านั้น

ทั้งนี้ มีรายงานอีกว่า จีนมีการนำเข้าทองคำมากสุดนับตั้งแต่ปี 2019 ขณะที่ฮ่องกงยังคงเป็นศูนย์กลางการซื้อขายทองคำ และในเดือน เม.ย. มีการนำเข้าทองคำเพิ่มมากขึ้น มากสุดนับตั้งแต่เดือน มกราคม 2020 แต่สหรัฐอเมริกา และ สหราชอาณาจักร นำเข้าลดลง

อย่างไรก็ดี จากผลกระทบการแพร่ระบาดของ COVID ในเดือน พฤษภาคม มีแนวโน้มที่จะทำให้ความต้องการทางกายภาพที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในอินเดีย แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังความต้องการในส่วนนี้จะฟื้นตัวกลับมาได้

- Advertisement -