- Advertisement -

ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์เปิดตลาดที่ระดับ 1,955 ดอลลาร์ จนถึงขณะนี้( 14.00 น./ 23 ก.ย.) ราคาทองคำได้ร่วงลงมาเคลื่อนไหวแนว 1,885 ดอลลาร์แล้ว โดยปัจจัยหลักมาจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ซึ่งเมื่อคืนนี้อยู่ระดับ 93.97 แข็งค่าสุดในรอบเกือบ 2 เดือน

“เมื่อมองถึงปัจจัยโดยรอบที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ แม้ว่าดูเหมือนจะส่งผลดีกับราคาทองคำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนโยบายเฟดที่ประกาศจะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำไปถึงปี 2566 เรื่องของวัคซีนป้องกันไวรัส โควิด-19 ที่ยังดูมีปัญหาจากการใช้งาน หรือเรื่องการแพร่ระบาดของ COVID-19 รอบสองในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะยุโรปจนหลายทำให้อาจจะต้องประกาศล็อคดาวน์อีกครั้ง แต่ทองคำก็ยังถูกนักลงทุนเทขายออกมาเพื่อทำกำไร โดยปัจจัยหลักก็คือการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ทำให้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ในแนว 1,900 ดอลลาร์ไปอีกระยะ” นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัดกล่าวกับ GoldAround.com

ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของราคาช่วงสัปดาห์นี้ คาดว่าจะอยู่ในแนว 1,850-1,905 ดอลลาร์ จากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ คาดว่าแนวต้านจะขยับขึ้นไปแถว 1,920 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านที่สำคัญในช่วงก่อนที่ราคาทองคำวิ่งไปทำสถิติสูงสุดเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีในช่วงนี้ยังคงติดตามการ Brake out ของราคา ซึ่งขณะนี้ราคาทองคำได้เกาะอยู่ฐานล่างของสามเหลี่ยมที่เป็นมุมฉาก ที่พร้อมจะ Brake out  ออกไป ซึ่งจะทำให้ต้องมาปรับกรอบการเคลื่อนไหวราคากันอีกครั้ง

กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด ได้แนะนำกลยุทธ์การลงทุนทองคำในช่วงนี้ว่า นักลงทุนยังต้องใช้ความอดทนรอราคาทองคำดีดตัวกลับมา หลังจากที่ในช่วงระยะเวลาเดือนเศษราคาได้ลดต่ำลงมา 200 ดอลลาร์ หลังจากได้ขึ้นไปทำจุดสุดสูงเมื่อชวงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

- Advertisement -

ในช่วงนี้นักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็บสะสมได้เมื่อราคาย่อตัว โดยระดับราคาแถว 1,880 ถึง 1,905 ดอลลาร์ถือเป็นจุดที่น่าสนใจแต่ขอให้ทยอยซื้อ และความเห็นส่วนตัวไม่แนะนำให้เล่น Short เพราะมองว่าเทรนด์ใหญ่ของราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น และโอกาสที่ราคาทองคำจะดีดกลับขึ้นไปในระดับราคาสูงๆ ยังมีอยู่มาก ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นช่วงก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา

- Advertisement -