- Advertisement -

22-07-20

มาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้ (22 ก.ค.) ราคา gold spot ได้แกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ หลังจากที่ช่วงเช้าได้พุ่งไปทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1,864 ดอลลาร์ ก่อนจะย่อตัวลงมาเคลื่อนไหวแถวบริเวณ 1,850 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินบาทได้แข็งค่าขึ้นในช่วงเช้าและได้อ่อนตัวลงมาในช่วงบ่าย ทั้งนี้สมาคมค้าทองคำได้ประกาศปรับราคาทองคำทั้งสิ้น 6 ครั้ง โดยปรับขึ้น 4 ครั้ง และลง 2 ครั้ง รวมปรับขึ้นบาทละ 400 บาท โดยล่าสุดราคาขายออกอยู่ที่บาทละ 27,700 บาท

นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด เปิดเผยกับ GoldAround.com ว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ขยับขึ้นมากว่า 200 ดอลลาร์ จากระดับ 1,600 ดอลลาร์กว่า ๆ มาอยู่ที่ 1,850 ดอลลาร์ ประกอบกับค่า RSI (Relative Strength Index) ก็สูงถึง 74 ถือว่าอยู่ในสภาวะการซื้อมากเกินไป หรือ overbought ทำให้มองว่า ในระยะสั้นยังไม่เหมาะกับการเข้าลงทุน เพราะอาจจะมีการเทขายทำกำไร ซึ่งจะทำให้ราคาย่อตัวลงเพื่อปรับฐานบ้าง โดยราคาทองอาจจะลงไปลึกถึง ระดับ 1,820 ดอลลาร์ หรือ 1,790 ดอลลาร์ ก่อนที่จะดีดกลับมา ซึ่งระดับราคาดังกล่าวจะเป็นโอกาสของนักลงทุนที่ต้องการจะเข้าซื้อ

สถานการณ์ราคาในลักษณะนี้ ไม่แนะนำนักลงทุนให้ short เพราะราคาได้วิ่งมาชนแนวต้านที่ระดับสูงสุดของเส้น trend line คือ 1,861 ดอลลาร์ และมีบางช่วงได้พุ่งทะลุไปด้วยซ้ำ ขณะที่ฐานแนวรับยังคงอยู่ที่ระดับ 1,790 ดอลลาร์ หากวันนี้ราคาปิดสามารถยืนได้เหนือระดับ 1,860 ดอลลาร์ได้ กรอบของราคาจะขยับขึ้นเป็น 1,790 – 1,920 ดอลลาร์แทน และจะทำให้ระดับ 1,790 ดอลลาร์เป็นแนวรับที่แข็งแกร่งมาก

นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com

- Advertisement -

ส่วนภาพรวมของการลงทุนในช่วงนี้ ยังมองว่าทองคำยังเป็นตัวเลือกที่ดี และแนวโน้มราคาในอนาคตจะยังไปได้อีกไกล หากนักลงทุนจะเข้าซื้อในช่วงเวลานี้ เพื่อถือลงทุนระยะยาวก็ยังเชื่อว่าดีกว่าถือเงินสด เพราะมองว่าขณะนี้เม็ดเงินที่หลาย ๆ ภาคส่วนต่าง อัดฉีดเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งล่าสุด EU ก็เตรียมอัดฉีดเงินอีกก้อนใหญ่ ทำให้ขณะนี้ เงินกำลังล้นโลก และกำลังจะเข้าสู่ยุคเงินเฟ้อ ส่งผลให้ขณะนี้สินค้าเกี่ยวกับการลงทุนทุกชนิดมีราคาแพงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน สกุลเงินต่าง ๆ หุ้น แม้กระทั่งซิลเวอร์ ก็ยังปรับราคาขึ้น ถึง 46 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงทองคำด้วย ซึ่งปีนี้ขยับขึ้นมาแล้ว 20 เปอร์เซ็นต์ และกลยุทธ์ในการลงทุนทองคำในอนาคต มองว่าฝั่ง buy จะได้เปรียบมากกว่า และเทรนด์ shot ในระยะ 5 ปีต่อจากนี้

ขอขอบคุณ : บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด

- Advertisement -