ประเด็นข่าวหลักที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ คือ การประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ ในช่วงค่ำวันนี้ (14 ก.ย.) ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบรายปี
หลังจากสหรัฐฯ ประกาศดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังคงเร่งตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า หากตัวเลขอัตราเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เฟดอาจเริ่มมาตรการปรับลดการซื้อคืนพันธบัตรเร็วขึ้น และและคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อราคาทองคำโดยตรง
ในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง $1,760 และ $1,830 ซึ่งแสดงถึงความไม่แน่นอนของผลการตัดสินใจเกี่ยวกับผลการกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด “เดลต้า” การเติบโตทางเศรษฐกิจ การคาดการณ์ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ และนโยบายทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม หลังจากตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต เดือน ส.ค. ที่แข็งแกร่งขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลระยะเวลา 10 ปี มีมูลค่าสูงขึ้น และราคาทองคำปรับตัวลดลง 2.1 % ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องมารอดูว่า ตัวเลข CPI ที่จะประกาศในคืนนี้จะเป็นอย่างไร
ส่วนทิศทางเงินบาทในวันนี้ คาดอ่อนค่าลงเล็กน้อย หลังดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า ขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ โดยนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อจับทิศทางอัตราเงินเฟ้อ และแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่ง USD Futures เดือน ก.ย. 64 คาดจะมีแนวรับที่ 32.80 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 32.90-33 บาท/ดอลลาร์
หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และหรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.