แม้ว่าผลการประชุมที่ แจ็คสัน โฮล จะดันให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้น แต่ราคายังทะยานเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
นักยุทธศาสตร์การตลาด จาก Aberdeen Standard Investments ชี้ตลาดทองคำอาจเริ่มเปลี่ยนไปเป็นขาขึ้นอีกครั้งก่อนสิ้นเดือนกันยายน
Robert Minter, director of investment strategy at Aberdeen Standard Investments กล่าวกับ Kitco News ว่า ให้จับตาภัยคุกคามของ โควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์ เดลต้า จะส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการตัดสินใจที่จะลดการซื้อพันธบัตรรายเดือน (QE)
ซึ่งหากแผนดังกล่าวล่าช้าออกไป ก็จะเป็นผลดีต่อราคาทองคำ ที่สำคัญหากชาวอเมริกัน ยังว่างงานอยู่มาก รัฐบาลสหรัฐฯ อาจถูกบังคับให้ต้องทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
Robert Minter มองว่าในเดือนกันยายนนี้ ชาวอเมริกัน 10 ล้านจาก 11 ล้าน ควรจะต้องออกไปหางาน และกลับไปทำงาน เพราะเงินที่รัฐบาลอุดหนุนจะสิ้นสุดลง
แต่เมื่อดูตัวเลขการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ยังคงน่ากังวล การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในขณะนี้ ยังถือว่าไม่น่าพอใจ และจะเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะกดดันเฟด ให้คงนโยบายการเงินในปัจจุบันไว้ก่อน
นอกจากนั้น Robert Minter ยังให้จับตาว่า อาจจะมีการสนับสนุนให้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ เพื่อสนับสนุนคนว่างงาน เพราะนักการเมืองต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งกลางเทอมปีหน้า และมีโอกาสเป็นไปสูง ที่จะมีแผนการช่วยเหลือผู้ว่างงานออกมาอีกระลอก
เพราะดอกเบี้ยขณะนี้ ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งมาตรการใหม่ที่ว่านี้จะไม่ใช่มาตรการ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ที่ผ่านการพิจารณาไปแล้ว รวมถึงงบประมาณ 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ ที่กำลังถกเถียงกัน
ทั้งนี้ โยบายการเงินของเฟด และการใช้จ่ายของรัฐบาล เป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำขยับเพิ่มสูงขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นยังคงเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญสำหรับทองคำ และยังมองว่าปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน อาจยาวนานกว่าที่คาดไว้หลายปี เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ สร้างสินค้าคงคลังขึ้นใหม่
แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้น จะทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในแดนลบ แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
Minter กล่าวว่า คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะซื้อขายระหว่าง 1,800 ถึง 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายใน 12 เดือนข้างหน้า โดยที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ทดสอบแนวรับต่ำสุดไปแล้ว และตอนนี้ได้เวลาจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนแล้ว
แม้ว่านักลงทุนเชื่อว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบัน จะยังคงสนับสนุนตลาดตราสารทุน และผลักดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรให้สูงขึ้น แต่ Minter มองว่า ยังมีที่ว่างสำหรับทองคำในพอร์ตของนักลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องจัดสรรพื้นที่ให้ ทองคำ 50% ของพอร์ต แต่การมีทองคำเพียงเล็กน้อยในพอร์ตการลงทุน ก็จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้
ที่มา : kitco.com
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.