Kitco News ได้นำเสนอบทวิเคราะห์ของ Georgette Boele, senior precious metals strategist ABN AMRO ที่ระบุว่า ปัญหาระหว่าง รัสเซีย และ ยูเครน ยังคงมีความไม่แน่นอน ทำให้ทองคำยังเป็นสินทรัพย์หลบภัยที่น่าดึงดูดใจ
แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สนับสนุนทองคำ โดยนักลงทุนซื้อทองคำและอาจรวมถึงตราสารทุนด้วย เพราะกลัวเงินเรื่องเฟ้อ สงคราม และ ค่าเงินที่อ่อนค่าลง
ทั้งนี้ Boele มองว่า ราคาทองคำจะอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในสิ้นปีนี้ และอาจจะยาวไปถึงปีหน้า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะลดลงไปอยู่ที่ 1,500 ดอลลาร์ ภายในสิ้นปี
การปรับเปลี่ยนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 2,078.80 ดอลลาร์ ก่อนจะร่วงลงมาทดสอบแนวรับที่ 2,000 ดอลลาร์
Boele อธิบายว่า การทำสงครามระหว่าง รัสเซีย กับ ยูเครน ทำให้เศรษฐกิจโลกแย่ลง และการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย จะทำให้ห่วงโซ่อุปทานสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญทั่วโลกหยุดชะงักลง ซึ่งรวมถึงพลังงาน เกษตรกรรม และโลหะอุตสาหกรรมบางชนิด ทำให้อัตราเงินเฟ้อในวงกว้างจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการบริโภค ซึ่งจะทำให้การเติบโตอ่อนแอลง อัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้น และธนาคารกลางจะตอบสนองต่อความท้าทายใหม่เหล่านี้อย่างแตกต่างออกไป
และในท้ายที่สุด ทองคำจะได้รับการสนับสนุนในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน แต่จะมีความผันผวนของราคามากเช่นกัน
แม้ว่าราคาทองคำจะยังคงสูงขึ้นในอีกสองปีข้างหน้า แต่ Boele ระบุว่า ตลาดจะต้องเผชิญกับความท้าทายเช่นกัน โดยความคาดหวังจากการดำเนินนโยบายที่เข้มงวดจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคาดว่า เฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปี โดย CME FedWatch แสดงให้เห็นว่าตลาดคาดการณ์ว่าจะเห็นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2.25% ในปีนี้
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ ก็คือ ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น จากสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน นอกจากนั้นทองคำอาจจะเผชิญแรงขายที่รุนแรง หากความขัดแย้งและความไม่แน่นอนของตลาดเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน
ซึ่งความตื่นตระหนกของตลาดมักจะไม่ใช่สภาพแวดล้อมเชิงบวกสำหรับราคาทองคำ เนื่องจากนักลงทุนจะหันไปหาสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องมากที่สุด และทองคำจะถูกเทขายเพื่อการเก็งกำไร โดยเฉพาะจากกองทุน ETF ที่จะมีขนาดใหญ่มาก
ทั้งนี้ Boele กล่าวว่า อยากจะเห็นความแข็งแกร่งของตลาดทองทำทางกายภาพมากกว่าตลาด ETF เนื่องจากการเทขายทองคำแบบตื่นตระหนกของ ETF อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคามากกว่าความต้องการทางกายภาพที่แข็งแกร่ง
ที่มา : Kitco.com
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.