จากบทความที่น่าสนใจของ ฮั่วเซ่งเฮง ระบุว่า
ในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำมีทิศทางขาลง จากปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องในรอบ 2 เดือนครึ่ง จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี การคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป แม้ว่าการประชุมเฟด เดือน มิ.ย. มีแนวโน้มว่าเฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ในการประชุมครั้งต่อ ๆ ไป เฟดอาจจะพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยก็เป็นได้
รวมถึง ความคลายกังวลเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับเพดานหนี้สหรัฐฯ หลังจาก ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ลงนามในกฎหมายเพื่อขยายเพดานหนี้ ส่งผลให้สหรัฐฯ รอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวได้มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 1 ม.ค. 2568 ทำให้ราคาทองคำไม่สดใส
ประกอบกับในช่วงไตรมาสนี้ ความต้องการทองคำจากจีนลดลงตามฤดูกาล ซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในโลก
ทองคำใกล้หมดเวลาแล้วจริงหรือ ?
เรายังคงไม่คาดว่า ราคาทองคำจะยังไม่สดใส แต่กลับมองว่า ราคาทองคำเป็นเพียงการปรับฐานหรือปรับตัวลดลงในระยะสั้นเท่านั้น
สิ่งหนึ่งที่ต้องติดตามในระยะอันใกล้ที่อาจเข้ามาหนุนราคาทองคำได้ นั่นคือ ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ จากการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
หากเกาหลีเหนือยิงสำเร็จ ก็อาจจะสร้างความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีเหนือได้อีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้เกาหลีเหนือได้เปิดเผยแผนยิงจรวดในวันที่ 31 พ.ค.-11 มิ.ย. และจะปล่อยดาวเทียมสอดแนมเพื่อดูความเคลื่อนไหวทางทหารของสหรัฐฯ ซึ่งเกาหลีเหนือก็ได้ทำจริงตามแผน
แต่การยิงจรวดในครั้งแรกนั้น ไม่ประสบผลสำเร็จ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เกาหลีเหนือถอดใจ เพราะ นางคิม โย จอง น้องสาวของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือยืนยันว่า เกาหลีเหนือจะยิงจรวดส่งดาวเทียมสอดแนมทหารขึ้นสู่อวกาศอีกครั้งเร็ว ๆ นี้
สาเหตุที่สำคัญที่เกาหลีเหนือมีแผนยิงจรวด เนื่องมาจากที่เกาหลีใต้และสหรัฐฯ ได้มีการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุด และเสมือนจริงมาก ๆ ทำให้เกาหลีเหนือเกิดความไม่พอใจอย่างมาก เกาหลีเหนือจึงขู่ด้วยแผนการยิงจรวดขึ้นมา
ขณะที่สหรัฐฯ ขู่กลับด้วยว่า ถ้าเกาหลีเหนือโจมตีนิวเคลียร์ไม่ว่าจะโจมตีสหรัฐฯ หรือพันธมิตร ก็จะเป็นจุดจบของรัฐบาล “คิม จอง อึน” และสหรัฐฯ ยังประกาศต่อต้านสะสมอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และจะเสริมอาวุธนิวเคลียร์ให้เกาหลีใต้ด้วยเช่นกัน
แม้ว่าการยิงจรวดของเกาหลีเหนือครั้งนี้จะประสบความล้มเหลว แต่ก็ต้องจับตาต่อไปว่า ในช่วงระยะเวลาตลอดสัปดาห์นี้ อาจมีการยิงจรวดขึ้นสู่อวกาศจากเกาหลีเหนือขึ้นอีกครั้ง และถ้าครั้งนี้สำเร็จ ก็ยิ่งสร้างความตึงเครียดในด้านภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตรงนี้ อาจกลับมาเป็นแรงหนุนราคาทองคำ
ขณะเดียวกัน แม้ว่าการยิงจรวดในครั้งแรกของเกาหลีเหนือจะไม่สำเร็จ แต่ก็เริ่มสร้างความตึงเครียดเล็กน้อยให้กับญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เนื่องจากหลังจากที่เกาหลีเหนือยิงจรวด Chollima-1 รุ่นใหม่ ที่มีดาวเทียม Malligyong-1 ก่อนตกลงสู่ทะเลเหลือง
การยิงดังกล่าว ก็ทำให้เกิดระบบเตือนภัย J-Alert ของญี่ปุ่น โดยผู้คนในโอกินาวาก็ต่างไปหลบภัยในอาคารหรือใต้ดินทันที
ขณะที่ สหรัฐฯ ก็ประณามว่า เป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหลายข้ออย่างโจ่งแจ้ง และเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จัดประชุมเร่งด่วน
พร้อมกันนั้น ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และ เกาหลีใต้ จะเปิดระบบแชร์ข้อมูลเรียลไทม์เกี่ยวกับขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
ที่มาข้อมูล : ฮั่วเซ่งเฮง
Comments are closed.