แม้เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.) ราคาทองคำยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา ( อ่านข้อมูลเพิ่มเติม.. ) หลังจากที่ต้นสัปดาห์ที่แล้วทองคำถูกเทขายอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลมาจากการประกาศตัวเลขแรงงานในสัปดาห์ต้นเดือนสิงหาคม แต่นักวิเคราะห์มองว่า หากราคาทองคำยังไม่สามารถทะลุ 1,800 ดอลลาร์ได้ ยังไม่ปลอดภัยและอาจะถูกเทขายอีกรอบ
ปัจจัยหนุนราคาทองคำมาจากกลางความกังวลในหลายเรื่อง ทั้งประเด็นตอลิบานเข้ายึดอำนาจในอัฟกานิสถานหลังการถอนทหารของสหรัฐฯเมื่อไม่นานมานี้ นอกจากนั้นตลาดยังเฝ้าจับการแถลงของประธานธนาคารกลางเจอโรม พาวเวลล์ ในช่วงดึกคืนนี้( 17 สิงหาคม ) เพื่อรอสัญญาณการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินรวมถึงรอการเปิดเผยผลประชุม FOMC ในเดือนกรกฎาคมในคืนวันพุธ
เรื่องราวเหล่านี้จะส่งผลถึงราคาทองคำว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะการทดสอบแนวต้านจิตวิทยาระดับ 1,800 ดอลลาร์ ว่าจะผ่านหรือไม่ จะเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาทองคำในอนาคต
นักยุทธศาสตร์ของธนาคาร OCBC กล่าวกับ kitco news ว่า กรอบราคาทองคำที่คาดการณ์ยังอยู่ระหว่าง 1,735 ถึง 1,845 ดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันราคาทองคำอยู่ระดับกึ่งกลางพอดี ทั้งนี้มองว่ารายงานการประชุมของ FOMC จะเป็นตัวกำหนดทิศทางระยะสั้นของราคาทองคำ หากรายงานออกมาในเชิงหนุนให้เฟดเร่งถอน QE อาจส่งการร่วงลงของทองคำอีกครั้ง”
ขณะที่ธนาคารเพื่อการลงทุนข้ามชาติอีกแห่ง เห็นว่านักลงทุนควรลดการถือครองทองคำ เพราะมองว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวและแข็งแกร่งขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐหก็คาดว่าจะสูงขึ้นในปีหน้า โดย Dominic Schnider, head of commodities and Asia Pacific foreign exchange at UBS Global Wealth Management CIO Office กล่าวกับ Bloomberg ว่าในขณะที่ภาพรวมการฟื้นตัวศก.โลกที่ดูดีขึ้น ทำไมถึงต้องการถือสินทรัพย์ประกันความเสี่ยงไว้มากมาย ทั้งนี้ UBS มองว่าราคาทองคำอาจร่วงลงสู่ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และซิลเวอร์ จะพุ่งไปที่ 22 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่านักวิเคราะห์จากทุกสำนักจะมองเช่นนั้น เพราะ Goldman Sachs ยังคงคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะพุ่งแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากความต้องการทองคำเริ่มฟื้นตัว
ทั้งนี้ยังมีอีกประเด็นที่ต้องตามในคืนนี้ (17 ส.ค.) คือ ยอดขายปลีกของสหรัฐ ซึ่ง Chris Weston head of research Pepperstone กล่าวว่า หากตัวเลขข้อมูลยอดขายปลีกออกมา 0.2% หรือสูงกว่านั้น อาจหยุดความกลัวว่าตัวเลขการบริโภคจะลดลง ซึ่งจะดันให้ผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวสูงขึ้น และราคาทองคำขยับลง
นอกจากนั้นยังมีอีกประเด็นที่ยังทำให้มองว่าทองคำยังคงน่าสนใจ คือความต้องการทองคำของธนาคารกลางที่เพิ่มขึ้น โดยล่าสุดประเทศบราซิลและอินเดีย ได้ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น ซึ่ง commodity strategists at TD Securities ระบุว่า การซื้อของธนาคารกลางที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยชดเชยแรงกดดันจากการเก็งกำไรที่เกิดขึ้นในทองคำมาระยะหนึ่งแล้ว และการที่ราคาทองคำได้ฟื้นตัวขึ้นสู่แนว 1,780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจกระตุ้นแรงซื้อในระยะสั้น
CR : Kitco news
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.