คำแนะนำ :
เสี่ยงเปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,767-1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือหากรับความเสี่ยงได้ไม่มาก หรือ หากถือครองทองคำอยู่แล้วอาจเลือกชะลอการเข้าซื้อ
แนวรับ : 1,761 1,749 1,733 แนวต้าน : 1,796 1,812 1,826
สรุป
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 5.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในระหว่างวันราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,790.02 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่กลับเผชิญแรงขายทำกำไรในที่สุด
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มการเปิดเผยยอดขายบ้านมือสอง และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์ที่ออกมาดีกว่าที่คาด ส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง โดยกลับมาได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายพาวเวล ประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดแถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์ COVID-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยนายพาวเวลย้ำชัดว่า “เฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วเกินไปเพียงเพราะกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ” และเฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมีสัญญาณของการฟื้นตัว “ในวงกว้างและครอบคลุม” ทั้งในตลาดแรงงานและเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สัญญาณที่สะท้อนว่าเฟดจะยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย เป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์และสร้างแรงหนุนเข้ามาพยุงราคาทองคำเอาไว้ แต่การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังคงเป็นไปอย่างจำกัดเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกว่าเฟดอาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปลายปีนี้ หรือ ต้นปีหน้า นั
่นทำให้เกิดแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาในตลาดทองเป็นระยะ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง
สำหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมกนง.ของไทย การเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่, ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐ รวมถึงติดตามถ้อยแถลงของนางโบว์แมน หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด, นายบอสติก ประธานเฟดแอตแลนตา และนายโรเซนเกรน ประธานเฟดบอสตัน
ข่าวสารประกอบการลงทุน :
- (+) ดอลล์อ่อน หลังพาวเวลส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นว่า เฟดจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป
- ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2564 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค. ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.14% แตะที่ 91.7626 เมื่อคืนนี้
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9182 ฟรังก์ จากระดับ 0.9185 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2320 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2359 ดอลลาร์แคนาดา
- แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 110.62 เยน จากระดับ 110.27 เยน ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1936 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1909 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3941 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3929 ดอลลาร์
- (+) นพ.เฟาชี่ รับโควิดสายพันธุ์เดลตา คือ ภัยคุกคามใหญ่ของสหรัฐฯ โควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา ที่ถูกพบครั้งแรกในอินเดีย ถือเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ ในการสกัดกั้นการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ
- นายแพทย์แอนโธนี เฟาชี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า โควิดกลายพันธุ์เดลตา มีการระบาดที่มากกว่า รวดเร็วกว่า และมีความรุนแรงกว่าโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม
- (+) เกาหลีเหนือ ส่งสัญญาณไม่พร้อมกลับคืนสู่โต๊ะเจรจากับสหรัฐฯ เร็วๆ นี้ เกาหลีเหนือ บอกปัดแผนคืนสู่โต๊ะเจรจากับสหรัฐฯ ในเร็วๆ นี้ หลังผู้นำรัฐบาลกรุงเปียงยางส่งสัญญาณพร้อมร่วมหารือกับรัฐบาลกรุงวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ก่อน คิม โย จอง น้องสาวของ คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ระบุในแถลงการณ์ที่รายงานโดยสำนักข่าว Korean Central News Agency ว่า ดูเหมือนว่า สหรัฐฯ จะมีความคาดหวัง “แบบผิดๆ” เกี่ยวกับความเห็นของพี่ชายของเธอที่มีออกมาเมื่อไม่นานมานี้ น้องสาวคนสนิทของผู้นำเกาหลีเหนือที่ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลในรัฐบาลกรุงเปียงยาง กล่าวว่า “สหรัฐฯ อาจจะตีความสถานการณ์ในแบบที่ทำให้ตนเองรู้สึกสบายใจ และความคาดหวังแบบผิดๆ นี้ มีแต่จะทำให้ผิดหวังหนักยิ่งขึ้นมากกว่า”
- (+) สหรัฐพลาดเป้าฉีดวัคซีนโควิดให้ชาวอเมริกัน 70% ก่อนวันชาติ 4 ก.ค. ทำเนียบขาวยืนยันในวันนี้ว่า สหรัฐจะไม่สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 70% อย่างน้อย 1 โดสก่อนวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ ตามที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนตั้งเป้าไว้
- นายเจฟฟ์ เซียนส์ ผู้ประสานงานด้านโควิด-19 ประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า “เราคิดว่าอาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นอีกหลายสัปดาห์เพื่อให้ชาวสหรัฐที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 70% ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส โดยรวมถึงผู้ที่มีอายุ 18-26 ปี”
- (-) สหรัฐเผยยอดขายบ้านมือสองลดลงเป็นเดือนที่ 4 สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยลดลง 0.9% สู่ระดับ 5.80 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงสู่ระดับ 5.72 ล้านยูนิต
- (-) ประธานเฟดซานฟรานซิสโกชี้เฟดอาจลดวงเงิน QE ในปีนี้ นางแมรี ดาลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เฟดอาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า “ดิฉันมีความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฟดอาจบรรลุเป้าหมายการจ้างงานเต็มศักยภาพ และอัตราเงินเฟ้อแตะระดับ 2% ในเวลาอีกไม่นาน ซึ่งจะทำให้เฟดสามารถลดวงเงิน QE จากระดับ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ โดยเราอาจบรรลุเป้าในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า” นางดาลีกล่าว
- (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 68.61 จุด ขานรับพาวเวลส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นว่า เฟดจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป โดยถ้อยแถลงดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 33,945.58 จุด เพิ่มขึ้น 68.61 จุด หรือ +0.20% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,246.44 จุด เพิ่มขึ้น 21.65 จุด หรือ +0.51% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,253.27 จุด เพิ่มขึ้น 111.79 จุด หรือ + 0.79%
- (+/-) อินเดียจับตาโควิดกลายพันธุ์ชนิดใหม่ ‘เดลตา พลัส’ อินเดียประกาศการค้นพบโคโรนาไวรัส โควิด-19 กลายพันธุ์ชนิดใหม่ ‘เดลตา พลัส’ (Delta plus) ตามรายงานของรอยเตอร์ ทางการอินเดีย ระบุให้ไวรัสกลายพันธุ์ชนิดใหม่ที่พบนี้ ชื่อว่า ‘เดลตา พลัส’ (Delta plus)
- หลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ชนิดนี้นับสิบราย ใน 3 รัฐของอินเดียตอนนี้ โดยผู้ติดเชื้อ 16 ราย อยู่ในรัฐมหาราชตระ ตามการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขอินเดีย และว่าโควิดสายพันธุ์ เดลตา พลัส มีระดับการแพร่เชื้อที่สูงขึ้นกว่าสายพันธุ์เดลตาและจำเป็นต้องเพิ่มการตรวจหาเชื้อมากขึ้นในแต่ละพื้นที่ของอินเดีย
ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.