วานนี้(19 ต.ค.) ราคาทองคำปรับลดลงแรงถึง 23 ดอลลาร์ โดยถูกกดดันจากเงินดอลลาร์ที่ได้แข็งค่าขึ้น แตะระดับ 113.095 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ได้เพิ่มขึ้นแตะระดับ 4.15%
ทั้งนี้ดอลลาร์ และบอนด์ยีลด์ ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งข้อมูลจาก CME FedWatch Tool สะท้อนให้เห็นว่าตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเฟดในเดือน พ.ย. ที่สำคัญยังมองว่าเดือน ธ.ค. เฟดก็ยังจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ทั้งที่ก่อนหน้านี้มองว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีกแค่ 0.50% (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม..)
ทำให้ราคาทองคำร่วงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,640 ดอลลาร์ ก่อนลงมาแตะจุดต่ำสุดแถว 1,627 ดอลลาร์ และมาปิดตลาดแนวดังกล่าว ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมาราคาทองคำยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยลงมาทดสอบระดับ 1,622 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และหากราคาหลุดแนวดังกล่าวลงไปได้ แนวรับถัดไปจะอยู่แถว 1,616 ดอลลาร์
ด้าน T.D.C. Gold มองว่า
Bond Yield อายุ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.57% เป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 15 ปีกดดันสินทรัพย์เสี่ยงและทองคำ ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงสู่แนวรับ1,620 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ
โดยราคาทองคำถูกกดดันจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ยังถูกมองว่าจะยังขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ทยอยประกาศออกมายังคงไม่ชะลอตัวลง ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคของฝั่งยุโรปยังขยายตัวต่อเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อทั่วโลกให้ยังอยู่ในระดับสูง
ขณะที่ HGF มองว่า
แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหลุดแนวรับสำคัญ 1,640 ดอลลาร์ และตลาดทองคำยังถูกกดดันจากความกังวลว่าเฟด จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยมีแนวรับที่ 1,620 ดอลลาร์ และ 1,614 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,640 ดอลลาร์ และ 1,660 ดอลลาร์
ส่วนราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ
ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ( 20 ต.ค.) ถือว่าผันผวนพอสมควร โดยราคาแรกเปิดตลาดลดลง 100 บาท ก่อนจะปรับราคาขึ้นและลง ครั้งละ 50 บาท อย่างละ 1 ครั้ง ทำให้ล่าสุด (11.15 น.) อยู่ที่ 29,650 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 29,550 บาท
ด้าน SPDR Gold Trust ยังขายทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 โดยล่าสุดขายทองคำมากถึง 6.08 ตัน (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม..)
ประเด็นที่ต้องติดตามคืนนี้
สหรัฐจะประกาศดัชนีการผลิตของเฟดสาขา ฟิลาเดลเฟีย เดือน ต.ค. ตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ -5.0 จากระดับ -9.9 ในเดือน ก.ย. ขณะที่ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 229,000 ราย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย. ตลาดคาดจะลดลง 0.3% เท่ากับเดือนส.ค.ที่ลดลง 0.3%
หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.