04-06-20
ราคาทองคำวานนี้ปิดตัวลดลงถึง 28.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันหลักจากการเปิดรับความเสี่ยงของนักลงทุนทั่วโลก ท่ามกลางความหวังว่าเศรษฐกิจจะพลิกฟื้นหลังจากทั่วโลกกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง โดย ADP ได้ตอกย้ำความหวังเชิงบวกดังกล่าวหลัง ด้วยการเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐในเดือน พ.ค.ได้ลดลงเพียง 2.76 ล้านตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงกว่า 9 ล้านตำแหน่ง
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐจาก ISM และ “มาร์กิต” ต่างก็ออกมาดีเกินคาดเช่นเดียวกัน สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปเรียบร้อย จึงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง จนดันดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ พร้อมกับเทขายทองคำซึ่งอยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างหนักกว่า 45 ดอลลาร์จากระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1,732 ดอลลาร์สู่ระดับต่ำสุดบริเวณ 1,687 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาเอาไว้ ทำให้ราคาทองคำลดช่วงติดลบขึ้นมาปิดตลาดบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในที่สุด ขณะนี้กองทุน SPDR ได้ซื้อทองคำเพิ่ม 4.09 ตัน
มาดูแนวโน้มการเคลื่อนไหวราคาทองคำวันนี้ ราคาเป็นลบชัดเจนขึ้นหลังจากราคาทิ้งตัวลงแรง แต่ระยะสั้นอาจเกิดการฟื้นตัวขึ้นในระยะสั้น หากราคายืนเหนือแนวรับ 1,691-1,687 ดอลลาร์ จะทำให้มีแรงซื้อเก็งกำไรส่งผลให้ราคาดีดกลับช่วงสั้นๆ เบื้องต้นอาจต้องระวังแรงขายกลับลงมาอีกครั้งหากราคายังไม่มีแรงซื้อมากพอหรือมีปัจจัยใหม่มาดันราคาขึ้น โดยประเมินแนวต้านที่ 1,708-1,712 ดอลลาร์
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เสี่ยงเปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,691-1,687 ดอลลาร์ได้ เพื่อหวังทำกำไรจากการดีดตัวขึ้นในช่วงสั้น โดยทยอยขายทำกำไรหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,708-1,712 ดอลลาร์
สำหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาด ECB จะ “คง” อัตราดอกเบี้ย แต่อาจเพิ่มวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) และขยายระยะเวลาโครงการออกไป รวมถึงติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ