30 มีนาคม 2563
มาดูสถานการณ์แพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศไทย วันนี้ (30 มี.ค.) พบมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย เป็นชายไทย อายุ 54 ปี เป็นชาวยะลา มีประวัติเดินทางมาจากมาเลเซีย กับหญิงไทยอายุ 56 ปี รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน กทม. พบภาวะปอดอักเสบรุนแรง ทำให้ผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 9 ราย มีผู้ป่วยใหม่ 136 ราย จาก 18 จังหวัด
รวมผู้ป่วยสะสม 1,524 ราย จาก 59 จังหวัด โดย 5 อันดับพื้นที่ที่มีผู้ป่วยมากที่สุด ได้แก่ กทม. 721 ราย ,นนทบุรี 73 ราย ,ภูเก็ต 49 ราย ,ยะลา 42 ราย และสมุทรปราการ 41 ราย นอกจากนั้นมีรายงานว่าได้มีผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้นเป็น 23 ราย ทุกรายอยู่ในภาวะวิกฤติ
นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูล เป็นที่น่าสังเกตคือ 2 วันที่ผ่านมา ผู้ป่วยโควิดใน กทม.กลับมาเพิ่มขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้จะสังเกตเห็นว่าเทรนด์ผู้ป่วยในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น
โดยกรณีผู้ป่วยรายใหม่ในกลุ่มขนส่งสาธารณะ พบคนขับ ผู้โดยสาร จึงขอเตือนประชาชนว่าการเดินทางไปไม่ว่าที่ชุมชนหรือสถานที่ปิด เช่น รถยนต์ รถโดยสาร รถไฟฟ้า ต้องสวมหน้ากากอนามัยเป็นประจำ ถ้าไม่มีอะไรขอให้อยู่บ้าน และเตือนเรื่องการรักษาระยะห่าง ทุกคนต้องทำช่วยกันทำให้เป็นนิสัย ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ ต้องทำความสะอาดยานพาหนะสม่ำเสมอ เปิดหน้าต่างระบายอากาศ เช็ดพื้นผิวด้วยแอลกอฮอล์ 70 % โดยเฉพะาะที่จับประตู ที่พักแขนเพื่อ ลดเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ
ด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ.กล่าวว่า พฤติกรรมคนไทยมีการเปลี่ยนแปลง การจะลดการแพร่กระจายของเชื้อได้นั้นอยู่ที่การหลีกเลี่ยงไปพื้นที่แออัดและการห่างกันเกิน 2 เมตร จากการสำรวจช่วง 2 วัน คือ วันที่ 27-28 มี.ค. พบว่า 71%
ทำเป็นนิสัยแล้ว คือ ไม่ไปสถานที่แออัด และห่างกันเกิน 2 เมตร จึงอยากเน้นให้ทำกันมากกว่านี้คือมากกว่า 90% จะทำให้โรคลดลงได้
มาดูตัวเลขผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก พบว่าขณะนี้มีกว่า 7 แสนราย เสียชีวิต 33,942 ราย โดยประเทศทางยุโรปและสหรัฐอเมริกา มีการติดเชื้อพบผู้ป่วยมาก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วย 1.4 แสนราย เสียชีวิต 2,471 ราย ส่วนอิตาลี เสียชีวิต 10,779 ราย
Comments are closed.