Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 5 พ.ค.65 By HGF

- Advertisement -

345

- Advertisement -

เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมข้างหน้า

ติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ระยะสั้นแนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวขึ้น

  • ราคาทอง Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นแรง เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลง หลังจากที่ดอลลาร์แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 20 ปี จากที่เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ตามคาด และเฟดจะทยอยปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ทั้งนี้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุม 2 ครั้งข้างหน้า แต่ได้ปฎิเสธแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงถึง 0.75% ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิม
  • คืนนี้สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 180,000 ราย
  • ระยะสั้นแนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,880 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,870 ดอลลาร์  ขณะที่มีแนวต้าน 1,920 ดอลลาร์ และ 1,930 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

- Advertisement -

CloseSupportResistance
1,881.101,880/1,8701,920/1,930

ราคาทองแท่ง 96.5%

CloseSupportResistance
30,40030,400/30,20030,800/30,950

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
30,570+1030,420/30,30030,800/30,920

- Advertisement -

เก็งกำไรฝั่งซื้อใกล้แนวรับบริเวณ 1,870 ดอลลาร์ (GF 30,300 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,860 ดอลลาร์ (GF 30,220 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,872.00+7.201,882/1,8721,922/1,932

เก็งกำไรฝั่งซื้อใกล้แนวรับบริเวณ  1,872 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,862 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าเล็กน้อย เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มอ่อนค่า หลังจากที่ดอลลาร์แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 20 ปี จากที่เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ตามคาดและเริ่มทำ QT เดือนหน้า ทั้งนี้ระยะสั้นค่าเงินบาทแข็งค่า สำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.65 มีแนวรับที่ 33.80 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 34.70 บาท/ดอลลาร์

News

พาวเวล” ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.5% ในการประชุมครั้งหน้า แต่ปฏิเสธขึ้นแรง 0.75%

          นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันพุธ (4 พ.ค.) ว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐอยู่ในภาวะตึงตัวมาก และอัตราเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับที่สูงเกินไป โดยเฟดจะเร่งดำเนินการเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง   ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 0.75% – 1.00% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี     “คณะกรรมการเฟดมีความเห็นว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุม 2 ครั้งข้างหน้า อย่างไรก็ดี ขณะนี้คณะกรรมการเฟดยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงถึง 0.75%” นายพาวเวลกล่าว

เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ตามคาด เริ่มทำ QT เดือนหน้า

          คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 0.75-1.00% ในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี     นอกจากนี้ เฟดยังเปิดเผยแผนทยอยปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งงบดุลดังกล่าวประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) โดยขณะนี้มีมูลค่ารวม 8.9 ล้านล้านดอลลาร์    ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม และหลังจากนั้น 3 เดือน เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม    แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า “กิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลงในไตรมาสแรก แต่การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนและการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของภาคธุรกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง ขณะที่เงินเฟ้อยังคงดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ การที่จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์เศรษฐกิจเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะทำให้ปัญหาชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานมีความรุนแรงขึ้น นอกเหนือจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครน และเหตุการณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ทำให้เกิดแรงกดดันเพิ่มขึ้นต่อเงินเฟ้อ และมีแนวโน้มถ่วงกิจกรรมทางเศรษฐกิจ”

ทำเนียบเครมลินปัดข่าว “ปูติน” เตรียมประกาศสงครามยูเครน 9 พ.ค.

          นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะประกาศสงครามต่อยูเครนอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งเป็น “วันแห่งชัยชนะ” ของรัสเซีย   “ไม่มีโอกาสที่จะเป็นเช่นนั้น นี่เป็นเรื่องที่เหลวไหล” นายเพสคอฟกล่าว    นอกจากนี้ โฆษกทำเนียบเครมลินยังปฏิเสธข่าวที่ว่า รัฐบาลรัสเซียจะทำการระดมกำลังทหารสำรองในวันดังกล่าวเพื่อเข้าไปทำสงครามในยูเครน หลังจากที่เผชิญการต่อต้านอย่างหนักจากกองทัพยูเครน    ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐและชาติตะวันตกระบุว่า ปธน.ปูตินจะประกาศสงครามต่อยูเครนอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งเป็น “วันแห่งชัยชนะ” ของรัสเซีย โดยทหารของสหภาพโซเวียตในขณะนั้นสามารถพิชิตกองทัพนาซีในวันดังกล่าวในปี 1945 ขณะใกล้สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

ขอขอบคุณ : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

- Advertisement -

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More