ทองคำปรับขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4แตะ1,833 ดอลลาร์
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนต.ค.
ทองคำคาดจะเริ่มมีแรงเทขายทำกำไร
- ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4โดยปรับขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ1,833 ดอลลาร์และทำจุดสูงสุดในรอบกว่า2 เดือน โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 1.434%นอกจากนี้ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันเงินเฟ้อได้ โดยสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในเดือนพ.ย.2553ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวานติดต่อกันเป็นวันที่ 2
- คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนต.ค.ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น5.8% เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น5.4% เมื่อเทียบรายปีสะท้อนให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐยังอยู่ในระดับที่สูง แต่ในช่วงนี้นักลงทุนคาดว่าเฟดยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้คาดจะไม่ได้ส่งผลลบต่อราคาทองคำ
- หลังจากที่ราคาทองคำ Spotปรับขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ1,833 ดอลลาร์แต่ยังไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้คาดจะเริ่มมีแรงเทขายทำกำไร ทองคำมีแนวรับอยู่ที่1,810 ดอลลาร์และ 1,800 ดอลลาร์และมีแนวต้านสำคัญที่1,833 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านถัดไป1,850 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,831.50 | +7.9 | 1,810/1,800 | 1,833/1,850 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
28,350 | -50 | 28,100/28,000 | 28,400/28,600 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
28,470 | +20 | 28,240/28,090 | 28,550/28,770 |
สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรบางส่วนที่ราคาทอง Spot1,833ดอลลาร์ (GF 28,550บาท)การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,810ดอลลาร์ (GF 28,240บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,800 ดอลลาร์ (GF28,090 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,830.80 | +4.70 | 1,812/1,802 | 1,835/1,852 |
สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรบางส่วนที่ราคาGOZ211,835ดอลลาร์การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำเมื่อราคาGOZ21ปรับลงมาที่ 1,812ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,802ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินจากต่างประเทศที่ไหลเข้าลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดโดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.70และ32.60บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน32.90 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลลาร์อ่อนค่านักลงทุนจับตาตัวเลขCPI สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (9 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐรวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสิ่งบ่งชี้เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟดดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.1% แตะที่ 93.9606 เมื่อคืนนี้
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก $2.8 ขานรับดอลล์อ่อน-บอนด์ยีลด์ร่วง
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนที่ผ่านมา (9 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐนอกจากนี้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐยังผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.8 ดอลลาร์หรือ 0.15% ปิดที่ 1,830.8 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 22.4 เซนต์หรือ 0.91% ปิดที่ 24.318 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดพุ่ง $2.22 รับความหวังแผนกระตุ้นศก.หนุนดีมานด์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนที่ผ่านมา (9 พ.ย.) และเป็นการปิดบวกติดต่อกันวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองว่าการผ่านร่างกฎหมายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในประเทศสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.22 ดอลลาร์หรือ 2.7% ปิดที่ 84.15 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์หรือ 1.6% ปิดที่ 84.78 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.
ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดลบ 112.24 จุดจากแรงขายทำกำไร-วิตกเงินเฟ้อ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (9 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดปิดทำนิวไฮติดต่อกันหลายวันนอกจากนี้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐยังส่งผลให้เกิดแรงเทขายหุ้นเป็นวงกว้างดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,319.98 จุดลดลง 112.24 จุดหรือ -0.31%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,685.25 จุดลดลง 16.45 จุดหรือ -0.35% และดัชนีNasdaqปิดที่ 15,886.54 จุดลดลง 95.81 จุดหรือ -0.60%
อินเดียอาจเริ่มจัดส่งวัคซีนโควิดให้โครงการโคแวกซ์ได้อีกครั้งเร็วๆนี้
แหล่งข่าวในแวดวงอุตสาหกรรมสุขภาพระบุว่าอินเดียอาจสามารถเริ่มจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับโครงการโคแว็กซ์ (COVAX) ซึ่งเป็นโครงการแบ่งปันวัคซีนทั่วโลกได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าโดยจะถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมาและถือเป็นการสิ้นสุดการระงับส่งวัคซีนซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อบรรดาประเทศยากจนทั้งนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งเป็นผู้นำร่วมในโครงการโคแว็กซ์ได้เรียกร้องให้อินเดียกลับมาเริ่มจัดส่งวัคซีนให้กับทางโครงการโคแวกซ์อีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่อินเดียส่งมอบวัคซีนประมาณ 4 ล้านโดสให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านและหุ้นส่วนในเดือนต.ค.ที่ผ่านมาสำนักข่าวรอยเตอร์ได้เปิดเผยข้อมูลของแหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่าเจ้าหน้าที่ของโครงการโคแว็กซ์ได้เริ่มวางแผนจัดสรรวัคซีนโควิชีลด์ (Covishield) สำหรับประเทศต่างๆแล้วโดยอิงตามการอนุมัติอย่างไม่เป็นทางการจากอินเดีย
เฟดเผยแบงก์สหรัฐผ่อนคลายการปล่อยกู้ขณะดีมานด์สูงหลังศก.ฟื้นตัว
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยผลสำรวจภาวะและแนวโน้มสินเชื่อ (Senior Loan Officer Survey) โดยระบุว่าธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ในสหรัฐได้ผ่อนคลายมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจ, นักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และภาคครัวเรือนในช่วงไตรมาส3ของปีนี้ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐสามารถต้านทานการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ระลอกล่าสุดผลสำรวจดังกล่าวซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจนั้นยังระบุด้วยว่าธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ได้ผ่อนคลายมาตรฐานการปล่อยกู้ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย, ขยายวงเงินสินเชื่อหรือกำหนดเงื่อนไขที่มีความเข้มงวดน้อยลงผลสำรวจบ่งชี้ว่าธนาคารพาณิชย์ได้ระบุถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่สดใสหรือมีความไม่แน่นอนลดน้อยลงรวมทั้งการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มธนาคารด้วยกันและยังระบุถึงนโยบายการอดทนต่อความเสี่ยงมากขึ้นท่ามกลางสภาวะตลาดและเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มโดยรวมดีขึ้นขณะที่ความต้องการเงินกู้ปรับตัวขึ้นเช่นกันโดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าผลสำรวจของเฟดยังระบุด้วยว่าธนาคารพาณิชย์ได้ผ่อนคลายมาตรฐานการปล่อยกู้ให้กับบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และความต้องการเงินกู้ของบริษัทเหล่านี้ก็เพิ่มขึ้นด้วยนอกจากนี้ธนาคารพาณิชย์ยังผ่อนคลายมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตและผู้ยื่นขอเงินกู้เพื่อซื้อรถยนต์ด้วยการปรับลดข้อกำหนดด้านคะแนนเครดิต (credit score) หรือเพิ่มวงเงินสินเชื่อสูงสุด (credit limit)อย่างไรก็ดีผลสำรวจระบุว่าธนาคารส่วนใหญ่มองว่าความต้องการสินเชื่อสำหรับภาคธุรกิจและเงินกู้ผ่านบัตรเครดิตยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ขณะที่คาดว่าความต้องการสินเชื่อจะแข็งแกร่งขึ้นในช่วง6เดือนข้างหน้า
ผู้ว่าฯแบงก์ชาติอังกฤษส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยหากความเสี่ยงเงินเฟ้อสูงขึ้น
นายแอนดรูว์เบลีย์ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยว่าBoE จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากพบว่าตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อผลักดันให้ค่าจ้างพุ่งสูงขึ้นโดยการแสดงความเห็นล่าสุดนี้ถือเป็นการตอกย้ำมุมมองของเขาเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินซึ่งส่งผลให้ตลาดการเงินเผชิญกับภาวะปั่นป่วนในสัปดาห์ที่ผ่านมานายเบลีย์กล่าวในช่วงถาม-ตอบของการประชุมซึ่งจัดขึ้นโดยBoE ว่า “สิ่งที่เรากังวลก็คือเมื่ออัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นและเราต้องการจะควบคุมเงินเฟ้อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจนอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ภาวะคอขวดจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการแรงงานซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะกระตุ้นให้การคาดการณ์เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น”
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.