- Advertisement -

คำแนะนำ

เน้นการเก็งกำไรในกรอบ 1,849-1,877 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังคงพยายามยืนเหนือโซนแนวรับ 1,851-1,849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านโซน 1,877 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,849 1,834 1,821  แนวต้าน : 1,877 1,885 1,899

หากราคาทองคำพยายามรักษาระดับเหนือโซน 1,851-1,849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้เบื้องต้นประเมินว่าในระยะสั้น ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซน  1,877 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ แต่หากเกิดแรงขายกดดันออกมาต่อเนื่อง จนหลุดแนวรับแรกประเมินแนวรับถัดไปโซน  1,834-1,821 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สรุป

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 3.15  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงกดดันจากข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับวัคซีนต้าน COVID-19 ซึ่งบั่นทอนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย  นอกจากนี้  ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์จากความวิตกเกี่ยวกับความล่าช้าของการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างสหภาพยุโรป(EU)และอังกฤษ  หลังทั้ง 2 ฝ่ายต้องระงับการเจรจาชั่วคราวเนื่องจากพบว่าเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของ EU ติดเชื้อCOVID -19 ซึ่งยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของ No-deal Brexit ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ  อาทิ  ยอดขายบ้านมือสองและดัชนีภาคการผลิตจากเฟดฟิลาเดเฟีย  ออกมาดีกว่าคาด  จึงเป็นปัจจัยเพิ่มเติมที่ส่งผลกดดันราคาทองคำให้ร่วงลงมาทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,851.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดี  แรงขายเริ่มชะลอตัวลงหลังจากราคาทองคำเข้าใกล้แนวรับสำคัญส่งผลให้มีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาเอาไว้  ประกอบกับดัชนีดอลลาร์ลดช่วงบวกและกลับมาอ่อนค่า  หลังจาก CNBC รายงานว่า  นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐสังกัดพรรคเดโมแครต เปิดเผยว่า นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสังกัดพรรครีพับลิกัน ได้ตกลงที่จะกลับมาเจรจาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของCOVID-19 อีกครั้ง  สถานการณ์ดังกล่าวช่วยหนุนให้ราคาทองคำลดช่วงติดลบลงในช่วงปลายตลาด  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -1.75 ตัน  สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ  แต่แนะนำติดตามการแถลงข่าวเกี่ยวกับมาตรการด้านอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

ข่าวสารประกอบการลงทุน

• (+) นำเสียงข้างมากรีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐเห็นชอบเริ่มหารือมาตรการเยียวยาโควิด-19 อีกครั้ง  สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า เมื่อวานนี้นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐระบุว่า นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากจากพรรครีพับลิกันเห็นชอบที่จะเริ่มการเจรจาอีกครั้งเรื่องมาตรการเยียวยาโควิด-19 ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทะยานขึ้นทั่วประเทศ  นายชูเมอร์ระบุระหว่างการแถลงข่าว ณ นครนิวยอร์กว่า “ในคืนที่ผ่านมาพวกเขาเห็นชอบต่อการเจรจา และเจ้าหน้าที่จะเจรจากันในวันพฤหัสบดีหรือวันศุกร์เพื่อพยายามเริ่มพิจารณาว่า เราจะสามารถออกกฎหมายเยียวยาโควิด-19 ที่ดีได้หรือไม่”  “ดังนั้น มีความคืบหน้าเล็กน้อยว่า เจ้าหน้าที่ของนายแมคคอนเนลล์ยอมเจรจากับเราในท้ายที่สุด”
• (+) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว  กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 742,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 710,000 ราย จากระดับ 709,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
• (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 44.81 จุด รับข่าวสหรัฐฟื้นเจรจาแผนเยียวยาศก.  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า แกนนำพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันได้ตกลงที่จะกลับมาเจรจาเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง โดยข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลและยังช่วยสกัดปัจจัยลบจากข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐด้วย  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,483.23 จุด เพิ่มขึ้น 44.81 จุด หรือ +0.15% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,581.87 จุด เพิ่มขึ้น 14.08 จุด หรือ +0.39% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,904.71 จุด เพิ่มขึ้น 103.11 จุด หรือ +0.87%
• (-) อังกฤษ-อียูระงับเจรจาการค้าชั่วคราว หลังเจ้าหน้าที่ติดเชื้อโควิด  นายเดวิด ฟรอสต์ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจรจาของอังกฤษ กล่าวว่า อังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) เห็นพ้องกันในการระงับการเจรจาข้อตกลงการค้าชั่วคราว หลังจากพบว่าเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของ EU ติดเชื้อโควิด-19  “ผมกำลังติดต่อกับคุณมิเชล บาร์นิเยร์ (หัวหน้าผู้แทนการเจรจาฝ่าย EU) เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเราต้องให้ความสำคัญต่อสุขภาพของคณะเจ้าหน้าที่ของเราก่อน” ข้อความในทวิตเตอร์ของนายฟรอสต์ระบุ  ก่อนหน้านี้ นายบาร์นิเยร์กล่าวว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่าง EU และอังกฤษยังคงมีความเป็นไปได้  นักลงทุนจับตาการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและ EU ก่อนที่ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของอังกฤษในการแยกตัวออกจาก EU จะสิ้นสุดลงในปลายปีนี้ ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายประสบความล้มเหลวในการเจรจา อังกฤษก็จะแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit)
• (-) สหรัฐเผยยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. สวนทางคาดการณ์  สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 โดยดีดตัวขึ้น 4.3% สู่ระดับ 6.85 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. หลังจากแตะระดับ 6.57 ล้านยูนิตในเดือนก.ย.  นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านจะลดลง 1.2% สู่ระดับ 6.45 ล้านยูนิตในเดือนต.ค.
• (-) ดอลล์แข็งเทียบปอนด์,ฟรังก์ จับตาสหรัฐเจรจาแผนเยียวยาศก.  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์และฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจามาตรการเยียวยาเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 ในสหรัฐ และการประชุมเพื่อเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษ และสหภาพยุโรป (EU)  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9105 ฟรังก์ จากระดับ 0.9102 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3065 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3047 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 103.80 เยน จากระดับ 103.81 เยน  เงินปอนด์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3252 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3280 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1875 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1864 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ 0.7287 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7320 ดอลลาร์สหรัฐ
• (+/-) ทรัมป์ถอย ยอมถอนฟ้อง เลิกความพยายามนับคะแนนใหม่ในรัฐมิชิแกน  ทีมทนายความของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนฟ้องต่อศาลแล้ว โดยได้ยุติความพยายามที่จะให้มีการนับคะแนนเลือกตั้งใหม่ในรัฐมิชิแกน  “ในเช้านี้ เราได้ถอนฟ้องคดีในรัฐมิชิแกน เนื่องจากเราได้รับในสิ่งที่เราต้องการแล้ว คือเราจะไม่ให้เวย์นเคาน์ตีประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ก่อนที่ประชาชนจะมีความมั่นใจว่าได้มีการนับบัตรทุกใบที่มีการลงคะแนนอย่างถูกต้อง และจะไม่มีการนับบัตรที่มีการลงคะแนนอย่างไม่ถูกต้อง” ข้อความในทวิตเตอร์ของนายรูดี้ จูลิอานี ทนายความของปธน.ทรัมป์ระบุ

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -