Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 9 ก.ย.63 (HGF)

- Advertisement -

0 542

- Advertisement -

ราคาทองคำเพิ่มขึ้นจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับลงแรง

คืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร

แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,910-1,940 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spotเมื่อวานปรับลดลงเข้าใกล้ 1,900 ดอลลาร์เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และนักลงทุนรอติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป ซึ่งอาจจะออกมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมแต่เริ่มมีแรงซื้อทองคำกลับเข้ามา ทำให้ราคาทองคำปิดตลาดเพิ่มขึ้น  หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับลงแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากคำสั่งขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนที่ตึงเครียด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจะลดระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีน พร้อมกับขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีบริษัทสหรัฐที่ตั้งในจีนและประเทศอื่นๆทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน หลังจากขายทองคำ 1.46 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเดือนก.ค.ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.05ล้านตำแหน่ง จากระดับ 5.89 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
  • แนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้นคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,910-1,940 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,940 ดอลลาร์ และ 1,950 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,910 ดอลลาร์และ1,900 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

- Advertisement -

Closechg.SupportResistance
1,927.94+3.561,910/1,9001,940/1,950

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,600-5028,400/28,25028,800/28,950

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,880+13028,550/28,42029,000/29,120

- Advertisement -

เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคาทอง Spot ระหว่าง1,910-1,940 ดอลลาร์ การเปิดสถานะซื้อแนะนำเมื่อราคาทองคำ Spot ปรับลงมาที่ 1,910 ดอลลาร์ (GF 28,550บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,900 ดอลลาร์ (GF 24,420บาท)

การลงทุนในทองแท่ง แนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,900 ดอลลาร์

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,934.00+12.001,912/1,9021,942/1,952

เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคาGOU20ระหว่าง1,912-1,942ดอลลาร์

เงินบาท

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 31.30-31.48 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัยและมีสภาพคล่องสูง หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับลงอย่างหนักซึ่ง USD Futures เดือนก.ย.63คาดจะมีแนวรับที่ 31.30 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.48 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ:เงินดอลล์แข็งค่านักลงทุนรุกซื้อสกุลเงินปลอดภัยหลังตลาดหุ้นร่วง

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัยและมีสภาพคล่องสูงหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนักขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงเนื่องจากความกังวลที่ว่าอังกฤษอาจจะไม่สามารถทำข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป (EU)ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.40% แตะที่ระดับ 93.4450 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดบวก $8.9 นักลงทุนซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังตลาดหุ้นร่วง

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ก.ย.) เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างไรก็ดีสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกของทองคำสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.9 ดอลลาร์หรือ 0.46% ปิดที่ 1,943.2 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 27.9 เซนต์หรือ 1.04% ปิดที่ 26.991 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดร่วง $3.01 วิตกโควิดฉุดดีมานด์,ซาอุฯหั่นราคาน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 37 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันนอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวซาอุดีอาระเบียวางแผนที่จะปรับลดราคาน้ำมันดิบในเดือนต.ค.   สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 3.01 ดอลลาร์หรือ 7.6% ปิดที่ 36.76 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีนี้สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 2.23 ดอลลาร์หรือ 5.3% ปิดที่ 39.78 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีนี้

ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดร่วง 632.42 จุดจากแรงขายหุ้นเทคโนฯ,วิตกข้อพิพาทจีน-สหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ก.ย.) ขณะที่ดัชนีNasdaq ดิ่งลงอย่างหนักเนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและจีนหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ประกาศว่าจะลดระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีนพร้อมกับขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีบริษัทสหรัฐที่ออกไปสร้างงานในจีนและประเทศอื่นๆดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,500.89 จุดลดลง 632.42 จุดหรือ -2.25% ขณะที่ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,331.84 จุดลดลง 95.12 จุดหรือ -2.78% ขณะที่ดัชนีNasdaq ปิดที่ 10,847.69 จุดลดลง 465.44 จุดหรือ -4.11%

“ทรัมป์”ปลื้มตัวเลขจ้างงานแกร่งคาดเศรษฐกิจปีหน้าฟื้นตัวแบบ “super V”

ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐแสดงความพอใจกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดและอัตราว่างงานที่ลดลงอย่างมากในเดือนดังกล่าวปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ว่าเขาคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปีหน้าและกล่าวด้วยว่าสหรัฐจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19เป็นรอบสุดท้ายซึ่งหากเขาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งปธน.สหรัฐเป็นสมัยที่สองการแพร่ระบาดรอบใหม่จะไม่เกิดขึ้น   “ขณะนี้เรามีหลักฐานบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์และผมคาดว่าในปีหน้าจะเป็นปีที่เศรษฐกิจมีการเติบโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเราผมเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวเป็นรูปตัวV หรืออาจจะเป็น “super V”

อังกฤษคาดจะได้ใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19ภายในต้นปีหน้า

นายแมตแฮนค็อกรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักรคาดการณ์ว่าอังกฤษมีแนวโน้มที่จะได้ใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19ภายในต้นปีหน้าโดยรัฐบาลอังกฤษได้เริ่มดำเนินการผลิตตามคำสั่งล็อตแรก30ล้านโดสแล้วซึ่งวัคซีนดังกล่าวพัฒนาโดยบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดนายแฮนค็อกเปิดเผยว่าแอสตร้าเซนเนก้าได้เริ่มดำเนินการผลิตวัคซีนโควิดตามคำสั่งซื้อของรัฐบาลอังกฤษแล้วและหากได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้จริงอังกฤษก็พร้อมจะนำไปใช้กับประชาชนโดยในกรณีที่ดีที่สุดนั้นก็น่าจะได้ใช้วัคซีนดังกล่าวภายในปีนี้แต่มีแนวโน้มมากกว่าที่วัคซีนต้านโควิด-19จะพร้อมใช้ในช่วงต้นปีหน้านายแฮนค็อกแสดงความเห็นดังกล่าวหลังจากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้แอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยว่าบริษัทได้เริ่มการทดลองวัคซีนโควิด-19ทางคลินิกในญี่ปุ่นแล้วขณะที่บริษัทวางแผนที่จะเริ่มจัดส่งวัคซีนให้กับญี่ปุ่นในช่วงไตรมาสแรกของปี2564การทดลองวัคซีนAZD1222ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดจะดำเนินการในสถานที่หลายแห่งและตั้งเป้ามีผู้เข้าร่วมการทดลองอายุตั้งแต่18ปีขึ้นไปประมาณ250คน

โพลชี้ “ไบเดน” มีโอกาสสูงกว่า 71% คว้าชัยปธน.สหรัฐ

ผลสำรวจล่าสุดของFiveThirtyEightบ่งชี้ว่านายโจไบเดนผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตมีโอกาสสูงถึง 71.1% ที่จะคว้าชัยชนะจากการลงคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) โดยคาดว่านายไบเดนจะชนะด้วยคะแนน 334 เสียงจากทั้งหมด 538 เสียงขณะเดียวกันโพลดังกล่าวคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์มีโอกาสเพียง 28.4% ที่จะได้รับชัยชนะจากคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งทั้งนี้ผลสำรวจล่าสุดซึ่งจัดทำขึ้นในวันจันทร์ที่ 7 ก.ย.ยังระบุด้วยว่าปธน.ทรัมป์มีโอกาสเพียง 15.9% ที่จะชนะคะแนนสนับสนุนจากประชาชน (popular vote) ขณะที่นายไบเดนมีโอกาสสูงถึง 84.1%  นอกจากนี้ผลสำรวจยังบ่งชี้ว่าปธน.ทรัมป์มีคะแนนนิยมเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 42.9% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากวันที่ 6 ก.ย. ขณะที่นายไบเดนมีคะแนนนิยมเฉลี่ย 50.6% เพิ่มขึ้นจากระดับ 50.5% ในวันที่ 6 ก.ย.

ขอขอขคุณ : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

- Advertisement -

- Advertisement -

Leave A Reply

Your email address will not be published.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More