- Advertisement -

นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปคาด ผลพวงจากการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐ ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือน พ.ย. อาจดันราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนสิ้นปีนี้

อาคัช โดชี นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ป ระบุในรายงานแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์รายไตรมาสว่า ความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ และผลการเลือกตั้งที่อาจจะเป็นไปอย่างล่าช้า อาจเป็นแรงผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งขึ้น

ทั้งนี้คาดว่าสัญญาทองคำล่วงหน้าจะพุ่งขึ้นมากกว่า 200 ดอลลาร์จากระดับปัจจุบัน ซึ่ง สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดวานนี้(22 ก.ย.) ที่ระดับ 1,907.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์

รายงานฉบับดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต เพราะสถานการณ์มีความซับซ้อนมากขึ้น หลังจากการเสียชีวิตของนางรูธ เบเดอร์ กินสเบิร์ก ผู้พิพากษาศาลสูงสุดของสหรัฐ เมื่อ ปธน.ทรัมป์ ประกาศว่าจะเสนอชื่อผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งแทนนางกินสเบิร์กในวันเสาร์นี้

- Advertisement -

แต่ทางฝั่ง นายโจ ไบเดน ได้เรียกร้องให้วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันคว่ำการโหวตเลือกผู้ที่ ปธน.ทรัมป์เสนอชื่อมา พร้อมกล่าวว่าการกระทำของ ปธน.ทรัมป์ เป็นการใช้อำนาจทางการเมืองที่แยบยล เพราะหากการแต่งตั้งได้รับอนุมัติจากวุฒิสภา ก็จะทำให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมครองเสียงข้างมากในศาลสูงสุดด้วยสัดส่วนสูงถึง 6 ต่อ 3 เสียง ซึ่งอาจส่งผลต่อกฎหมายและชีวิตชาวสหรัฐไปอีกหลายสิบปี พร้อมกับกล่าวว่าประชาชนสหรัฐควรจะเป็นผู้ตัดสินว่าใครควรจะมีสิทธิ์เสนอชื่อผู้พิพากษาศาลสูงสุดคนใหม่

ทั้งนี้นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ป เชื่อว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งนี้ จะเป็นแรงกระตุ้นให้ราคาทองคำดีดตัวเร็วขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ แม้ในประวัติศาสตร์จะไม่มีการบันทึกเกี่ยวกับรูปแบบของราคาทองคำในช่วงก่อนหรือหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และเชื่อว่าราคาทองคำจะพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ก่อนสิ้นปีนี้

CR: อินโฟเควสท์

- Advertisement -