เมื่อคืนนี้ ทองคำถูกเทขายแรงทำให้ราคาร่วงลงต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น แตะ 92.47 และผลตอบแทนจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น แตะ 1.36% แต่ตลาดยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังไม่ขยับนโยบายการเงิน หลังจากตัวเลขการจ้างงานพลาดเป้า
Edward Moya senior market analyst OANDA กล่าวกับ Kitco news ว่า นักลงทุนมีความกังวลกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และมองว่า เฟดมีแนวโน้มลด QE ในเดือน ธ.ค. ทำให้เป็นผลลบกับราคาทองคำในระยะสั้น
ทั้งนี้ ราคาทองคำที่ร่วงลงเกือบ 35 ดอลลาร์ ถือเป็นการพลิกกลับอย่างรุนแรงหลังสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 1% และมองว่าราคาทองคำในขณะนี้ เสี่ยง ต่อการเทขายเพิ่มเติม โดยอาจร่วงลงสู่ 1,755 ดอลลาร์ หากเป็นเช่นนั้นจริงจะทำให้ตลาดกลับทิศ และอาจจะเห็นราคาลงไปแตะ 1,700 ดอลลาร์ ก็เป็นได้
อย่างไรก็ดี Moya มองว่าในระยะกลาง หากว่าแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกลดลง จะดึงให้ผลตอบแทนพันธบัตรลดลงอย่างรวดเร็ว และจะกระตุ้นให้นักลงทุนจำนวนมากหันกลับมาซื้อทองคำอีกครั้ง
ด้าน James Knightley chief international economist ING กล่าวว่า ตัวเลข NFP เดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ ที่เพิ่มเพียง 235,000 ตำแหน่ง ถือว่าน่าผิดหวังมาก แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่า เกิดจากปัญหาด้านอุปทานหรืออุปสงค์ สำหรับตลาดแรงงานหรือไม่ แต่เมื่อรวมกับผลกระทบจากการแพร่กระจายของ โควิด ที่ยังส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แล้ว มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะยังไม่ทำอะไรในการประชุมเดือนนี้ แต่อาจจะขยับไปพิจารณาในเดือน พ.ย. แทน
ที่มา : kitco
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.