- Advertisement -

24-07-20

ในช่วงท้ายของตลาดทองคำในประเทศวานนี้ ( 23 ก.ค.) ราคา gold spot ได้พุ่งขึ้นไปแตะ 1,886 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินบาทอยู่ที่ 31.66 บาท ต่อดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำได้ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกรอบโดยขายออกอยู่ที่บาทละ 28,200 บาท โดยเมื่อวันก่อนหน้านี้ ราคาทองคำในประเทศปรับเพิ่มขึ้นถึงบาทละ 450 บาท ขณะที่ gold spot ได้พุ่งทำสถิติใหม่อีกรอบ ที่ระดับ 1,888 ดอลลาร์

คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com ว่า หลังจากที่ราคา gold spot ได้ทะลุผ่านระดับ 1,876 ดอลลาร์ไปแล้ว แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ 1,890 ดอลลาร์ และ 1,922 ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี อยากให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวัง เพราะในช่วงที่ผ่านมา ราคาปรับขึ้นมามากกว่าบาทละ 1,000 บาทแล้ว โดยราคาได้ขยับขึ้นมาค่อนข้างเร็วมาก จึงอาจจะถูกขายทำกำไรได้

ดังนั้น นักลงทุนที่มีทองคำในพอร์ทอยู่แล้ว อาจจะทยอยขายทำกำไรออกมาบางส่วน ขณะที่นักลงทุนที่ยังไม่มีทองคำในพอร์ทและอยากจะเข้าซื้อ อยากจะให้รอจังหวะที่ราคาย่อลงแล้วเข้าซื้อ แต่คาดว่าราคาจะย่อลงมาแค่ระดับ 1,850-1840 ดอลลาร์ เท่านั้น โอกาสที่จะราคาไหลลงไประดับ 1,800-1,790 ดอลลาร์ คงจะมีน้อย เพราะขณะนี้ปัจจัยหนุนมีค่อนข้างมาก

ประเด็นเรื่องของทองคำจะพุ่งขึ้นไปแตะบาทละ 30,000 บาทนั้น มองว่ายังเป็นเรื่องของอนาคต แต่หากดูเทรนด์ใหญ่ของราคาทองคำแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ เพราะยังเป็นขาขึ้นชัดเจน แต่ส่วนตัวจะมองระยะสั้นมากกว่า ขณะนี้ ก็จะพยายามลุ้นให้ทองคำปรับตัวขึ้นไปทำลายสถิติเดิมที่ระดับ 1,920 ดอลลาร์ จากนั้นค่อยมาดูกรอบราคาและปัจจัยอื่น ๆ ประกอบอีกครั้ง

คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com

- Advertisement -

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวต่อว่า แม้ในระยะหลัง ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นมาสูงและรวดเร็วมาก แต่ภาพรวมยังดูดีอยู่ โดยประเด็นหลักที่ทำให้ราคาทองคำมาถึงจุดนี้ได้ คือ เรื่องเศรษฐกิจทั่วโลกที่ทรุดตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ทำให้รัฐบาลทุกประเทศต้องอัดฉีดเงินเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งจะเป็นปัญหาต่อเนื่องระยะยาว ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็ยังคงมีปัญหาอยู่

ส่วนปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างแรงและเร็วในระยะหลัง มาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จากกรณีที่ผู้นําสหภาพยุโรปประกาศอัดฉีดเงินกว่า 7 แสนล้านยูโร เพื่อลดผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจจากไวรัส โควิด-19 ทำให้สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน

นอกจากนั้น ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งสหรัฐฯ จะสั่งปิดสถานกงสุลของจีนเพิ่มขึ้น หลังจากที่ได้สั่งปิดสถานกงสุลจีน ในเมืองฮิวส์ตันไปแล้ว โดยระบุว่า จีนกระทำโจรกรรมข้อมูลลับ ในขณะที่จีนพร้อมตอบโต้โดยขู่จะลดจำนวนเจ้าหน้าที่สถานกงสุลสหรัฐในฮ่องกง เช่นกัน

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

- Advertisement -