Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 21 ก.ย.63 (HGF)

- Advertisement -

1 337

- Advertisement -

กองทุน SPDRขายทองคำ1.02 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สัปดาห์นี้ติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ

แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ  1,930-1,960 ดอลลาร์

  • สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ Spotปรับขึ้นแตะแนวต้าน 1,973 ดอลลาร์ เนื่องจากคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และเฟดได้ระบุถึงการใช้นโยบายการเงินเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย ซึ่งส่งสัญญาณจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ต่อไปจนถึงอย่างน้อยปี 2566 แต่ทองคำเริ่มมีแรงเทขายออกมา หลังจากเฟดมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยเฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 3.7% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัว 6.5%รวมทั้งไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ1.02 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • สัปดาห์นี้ติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน  ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองและยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ  1,930-1,960 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,960 ดอลลาร์ ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,973 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,930 ดอลลาร์และ1,920 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

- Advertisement -

Closechg.SupportResistance
1,950.30+6.41,930/1,9201,960/1,973

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,650-5028,450/28,30028,800/28,950

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,890-6028,620/28,48028,960/29,110

- Advertisement -

แนะนำซื้อเมื่อราคาทองคำ Spot ปรับลงมาที่1,930ดอลลาร์ (GF 28,620 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,920ดอลลาร์ (GF 28,500 บาท)

การลงทุนในทองแท่ง แนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,920-1,930ดอลลาร์

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,957.60-3.901,935/1,9251,965/1,978

แนะนำซื้อเมื่อราคาGOZ20ปรับลงมาที่1,935 ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,925ดอลลาร์

เงินบาท

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าโดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุโรป และสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งUSD Futures เดือนธ.ค.63คาดจะมีแนวรับที่ 31.0 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.20 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลักกังวลโควิดถ่วงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ย.) โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันแล้วและเยนแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุโรปและสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคระบาดดังกล่าวดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลบ 0.05% สู่ระดับ 92.9273 เมื่อคืนนี้และปรับตัวลงรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดบวก 12.2 ดอลล์กังวลเศรษฐกิจหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนราคาทองด้วยสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.2 ดอลลาร์หรือ 0.63% ปิดที่ 1,962.1 ดอลลาร์/ออนซ์และในรอบสัปดาห์นี้สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 0.7%สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.9 เซนต์หรือ 0.11% ปิดที่ 27.129 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดบวก 14 เซนต์หลังโอเปกพลัสยันลดการผลิตตามข้อตกลง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ย.) หลังจากที่ประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสยืนยันที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์หรือ 0.3% ปิดที่ 41.11 ดอลลาร์/บาร์เรลและปรับตัวขึ้น 10.1% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 15 เซนต์หรือ 0.4% ปิดที่ 43.15 ดอลลาร์/บาร์เรลแต่เพิ่มขึ้น 8.3% ในรอบสัปดาห์นี้

ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดร่วง 244.56 จุดแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฉุดตลาด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ย.) และปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันโดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นด้านการคลังรอบใหม่ของรัฐบาลสหรัฐ, ความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐและนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างซบเซาดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,657.42 จุดลดลง 244.56 จุดหรือ -0.88%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,319.47 จุดลดลง 37.54 จุดหรือ -1.12% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 10,793.28 จุดลดลง 116.99 จุดหรือ -1.07%

“ทรัมป์” ทวีตแสดงความยินดี-หวังคุย “ซูงะ” ผู้นำญี่ปุ่นคนใหม่เร็วๆนี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ของสหรัฐแสดงความยินดีกับนายโยชิฮิเดะซูงะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเมื่อวานนี้เนื่องในโอกาสที่นายซูงะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต่อจากนายชินโซอาเบะและเปิดเผยว่าเขาหวังที่จะได้พูดคุยกับผู้นำคนใหม่ของญี่ปุ่นในอนาคตอันใกล้นี้สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่าบรรดาผู้นำโลกหลายคนต่างก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการด้านความสัมพันธ์กับปธน.ทรัมป์ซึ่งไม่มีประสบการณ์ในการดำรงตำแหน่งสาธารณะก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 และปธน.ทรัมป์ยังดำเนินนโยบายการทูตที่ไม่สามารถคาดเดาได้และไม่เป็นไปตามแบบแผนอย่างไรก็ตามนายชินโซอาบะอดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับปธน.ทรัมป์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาเล่นกอล์ฟด้วยกันโดยปธน.ทรัมป์เรียกนายอาเบะว่า “เพื่อนที่ดีมากของผม”    ด้านนายซูงะนั้นต่างจากนายอาเบะและสมาชิกสภานิติบัญญัติรายอื่นๆโดยนายซูงะไม่ได้มีเชื้อสายจากบุคคลในแวดวงทางการเมืองทั้งนี้นายซูงะเป็นบุคคลสาธารณะในรัฐบาลของนายอาเบะมาตลอดเกือบ 8 ปีโดยดำรงตำแหน่งหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและจัดงานแถลงข่าววันละ 2 ครั้งในฐานะโฆษกระดับสูงของรัฐบาล

“ทรัมป์” เตรียมกล่าวสุนทรพจน์ประชุมUN จากทำเนียบขาวอังคารหน้า

นายมาร์กมีโดวส์หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์จะไม่เดินทางไปยังนิวยอร์กเพื่อร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ในวันอังคารที่ 22 ก.ย.แต่จะแถลงสุนทรพจน์จากทำเนียบขาวแทนเนื่องจากเขาติดภารกิจหาเสียงเลือกตั้งที่รัฐวิสคอนซินทั้งนี้ตามธรรมเนียมปฏิบัตินั้นผู้นำสหรัฐจะต้องขึ้นกล่าวสุนทรพจน์เป็นลำดับที่สองต่อจากบราซิลในที่ประชุมสมัชชาใหญ่ของUN

แหล่งข่าวเผยดีล”ออราเคิล-ติ๊กต็อก”ลงตัวแล้วหลัง”ไบต์แดนซ์”ให้สหรัฐถือหุ้นใหญ่

แหล่งข่าวระบุว่าผลการเจรจาล่าสุดระหว่างรัฐบาลสหรัฐและไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อก (TikTok) ปรากฏว่าไบต์แดนซ์ยินยอมให้บริษัทสหรัฐเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากการซื้อกิจการติ๊กต็อกแหล่งข่าวเปิดเผยว่านักลงทุนสหรัฐซึ่งรวมถึงออราเคิลคอร์ปและวอลมาร์ทจะเข้าถือหุ้นอย่างน้อย 60% ในติ๊กต็อกและบริษัทแห่งใหม่จะมีชื่อว่า “ติ๊กต็อกโกลบอล”    ทั้งนี้บอร์ดบริหารของติ๊กต็อกโกลบอลจะมีกรรมการส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกันและชาวอเมริกันจะดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารนอกจากนี้ออราเคิลจะเข้าถือหุ้นในติ๊กต็อกโกลบอลจำนวน 20% และผู้บริหารของวอลมาร์ทจะเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารของบริษัทแหล่งข่าวระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์เตรียมตัดสินใจว่าจะให้การอนุมัติต่อข้อเสนอของออราเคิลในการซื้อกิจการติ๊กต็อกในสหรัฐหรือไม่ภายในเวลา 24-36 ชั่วโมงแหล่งข่าวเปิดเผยว่าปธน.ทรัมป์ได้หารือกับสมาชิกคณะรัฐมนตรีรวมทั้งบรรดาที่ปรึกษาแล้วก่อนที่จะทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย

จีนเปิดฉากซ้อมรบใกล้ช่องแคบไต้หวัน ขณะทูตสหรัฐเยือนไต้หวัน

          พันเอกเหริน กั๋วเฉียง เปิดเผยว่า กองทัพภาคตะวันออกของกองทัพปลดปล่อยประชาชน เริ่มทำการฝึกซ้อมจำลองสถานการณ์บริเวณช่องแคบไต้หวันเมื่อวันศุกร์ โดยระบุว่าเป็นการกระทำโดยชอบของกองทัพจีนเพื่อส่งเสริมความมั่นคง อำนาจอธิปไตย และสิทธิในอาณาเขตของจีน พร้อมกับกล่าวด้วยว่า ความพยายามของไต้หวันที่จะประกาศเอกราชโดยร่วมมือกับประเทศอื่นนั้น “เป็นเพียงฝันกลางวัน” เท่านั้น  ทั้งนี้ จีนได้ยกระดับกิจกรรมทางทหารในน่านน้ำหลังประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวินแห่งไต้หวัน ได้รับการสนับสนุนทางการทหารและการทูตจากสหรัฐและพันธมิตรมากขึ้น

ขอขอบคุณ: บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

- Advertisement -

- Advertisement -

Leave A Reply

Your email address will not be published.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More