- Advertisement -

กองทุน SPDRขายทองคำ 8.76 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สัปดาห์นี้ติดตามมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจของสหรัฐจีดีพีสหรัฐ

แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบ

• สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ Spotปรับขึ้นต่อเนื่องแตะ 1,931 ดอลลาร์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในยุโรป ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในช่วงปลายสัปดาห์ราคาทองคำ ลดลงอย่างต่อเนื่องหลุด1,900 ดอลลาร์เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ระดับ787,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ความไม่แน่นอนของมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจของสหรัฐทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ 8.76ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
• สัปดาห์นี้ติดตามมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจของสหรัฐจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19การประชุมธนาคารกลางยุโรปการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นจีดีพีสหรัฐไตรมาส 3 ซึ่งตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 32.0% หลังจากที่ไตรมาส 2  หดตัวลง 31.4%จีดีพีไตรมาส 3 ของยุโรปซึ่งตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 9.0% หลังจากที่ไตรมาส 2  หดตัวลง 11.8%
• แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบโดยมีแนวรับอยู่ที่ 1,880 ดอลลาร์ และ 1,870 ดอลลาร์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,915ดอลลาร์ และ 1,930 ดอลลาร์ตามลำดับ

ราคาทองตลาดโลก

- Advertisement -

ราคาทองแท่ง 96.5%

โกลด์ฟิวเจอร์ส

- Advertisement -

แนะนำซื้อเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,880 ดอลลาร์  (GF 28,010บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,870 ดอลลาร์(GF 27,860 บาท)

การลงทุนในทองแท่งแนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,880 ดอลลาร์ และ1,860-1,870 ดอลลาร์

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

แนะนำซื้อเมื่อราคาGOZ20ปรับลงมาที่ 1,885 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,875 ดอลลาร์

เงินบาท

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยโดยเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนขายดอลลาร์ ขณะที่รอดูความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐรอบใหม่ซึ่งUSD Futures เดือนธ.ค.63คาดจะมีแนวรับที่ 31.25บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.33บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนค่านลท.ขายขณะรอมาตรการกระตุ้นศก.

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายดอลลาร์ขณะที่รอดูความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐรอบใหม่ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.19% สู่ระดับ 92.7741

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดบวก 60 เซนต์นลท.ซื้อขณะรอมาตรการกระตุ้นศก.,ดอลล์อ่อน

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ต.ค.) โดยนักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยขณะที่ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐรอบใหม่นอกจากนี้สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงด้วยสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 60 เซนต์หรือ 0.03% ปิดที่ 1,905.20 ดอลลาร์/ออนซ์แต่ปรับตัวลงน้อยกว่า 0.1% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.4 เซนต์หรือ 0.14% ปิดที่ 24.675 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ: น้ำมันWTI ปิดลบ 79 เซนต์หลุด 40 ดอลล์ในรอบ 3 สัปดาห์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ต.ค.) โดยลดลงต่ำกวาระดับ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 สัปดาห์หลังถูกกดดันจากการที่ลิเบียเริ่มส่งออกน้ำมันมากขึ้น, ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐและความวิตกเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันดิบท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 79 เซนต์หรือ 1.9% ปิดที่ 39.85 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. และร่วงลง 3.1% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 69 เซนต์หรือ 1.6% ปิดที่ 41.77 ดอลลาร์/บาร์เรลและร่วงลง 2.7% ในรอบสัปดาห์นี้

ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดลบ 28.09 จุดตลาดรอมาตรการกระตุ้นศก.สหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อลดความเสี่ยงขณะที่ตลาดยังคงจับตาอย่างใกล้ชิดกับการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐรอบใหม่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,335.57 จุดลดลง 28.09 จุดหรือ -0.1%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,465.39 จุดเพิ่มขึ้น 11.90 จุดหรือ +0.34% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 11,548.28 จุดเพิ่มขึ้น 42.28 จุดหรือ +0.37%  ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 0.9%, S&P500 ลดลง 0.5% และNasdaq ปรับตัวลง 1.1%

IMF ลดคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียปีนี้ลงอีกเป็นหดตัว 2.2% จากพิษโควิด

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียเป็นหดตัว 2.2% ในปีนี้จากเมื่อเดือนมิ.ย.ที่เคยคาดไว้ว่าจะหดตัว 1.6%  โจนาธานดีออสทรีรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียและแปซิฟิกของIMF แถลงข่าวผ่านทางระบบออนไลน์ในวันพุธว่ารายงานประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจประจำภูมิภาคฉบับล่าสุดของIMF ระบุว่าเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 3/2563 แต่การฟื้นตัวของทุกประเทศมีความเร็วแตกต่างกันรายงานระบุว่าแนวโน้มเศรษฐกิจนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศขึ้นอยู่กับอัตราการติดเชื้อและมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ขนาดและประสิทธิภาพของการตอบสนองด้านนโยบายการพึ่งพากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและการพึ่งพาอุปสงค์จากภายนอกประเทศนายออสทรีเปิดเผยว่าเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วแม้จะยังอยู่ในภาวะหดตัวแต่ก็คาดว่าจะดีขึ้นเกินคาดในปีนี้โดยสะท้อนให้เห็นจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเร็วขึ้นหลังจากที่ได้มีการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้

โอบามาวอนชาวมะกันออกมาเลือกตั้งช่วยไบเดนคว้าชัยเลือกตั้ง

บารัคโอบามาอดีตประธานาธิบดีสหรัฐได้ออกมาเรียกร้องให้สมาชิกพรรคเดโมแครตอย่านิ่งนอนใจและผนึกกำลังกันเพื่อช่วยให้นายโจไบเดนตัวแทนพรรคคว้าชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.นี้โอบามากล่าวว่า “ผมไม่สนใจผลสำรวจ” พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาชนออกมาเลือกตั้งโดยเตือนว่านางฮิลลารีคลินตันก็เคยมีคะแนนนำในผลสำรวจการเลือกตั้งปี 2559 แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งไปอย่างน่าประหลาดใจ    “ประชาชนจำนวนมากเลือกอยู่กับบ้านเพราะขี้เกียจและนิ่งนอนใจแต่ต้องไม่ใช่ครั้งนี้! ไม่ใช่ในการเลือกตั้งครั้งนี้!” โอบามาระบุทั้งนี้โอบามายังได้พูดถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ด้วยว่า “ทรัมป์ไร้ความสามารถในการทำหน้าที่อย่างร้ายแรงการทวีตข้อความขณะดูโทรทัศน์นั้นไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใดๆ”

สหรัฐแฉรัสเซีย-อิหร่านล้วงข้อมูลชาวมะกันหวังแทรกแซงการเลือกตั้ง

    จอห์นแรตคลิฟฟ์ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐและคริสเรย์ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) แถลงต่อสื่อมวลชนในวันพุธว่ารัสเซียและอิหร่านมีข้อมูลของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในสหรัฐพร้อมทั้งได้ประกาศว่าสหรัฐจะตอบโต้ประเทศใดๆก็ตามที่มีส่วนแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.นี้ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังผู้มีสิทธิเลือกตั้งในสหรัฐได้รับอีเมลข่มขู่ที่อ้างว่ามาจากกลุ่มขวาจัดชื่อProud Boys โดยเนื้อหาในอีเมลขู่ว่าหากผู้รับอีเมลไม่โหวตให้นายโดนัลด์ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีอีกสมัยผู้โหวตนั้นจะถูก “ตามล่า”   ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทั้งสองรายดังกล่าวได้เรียกร้องให้ชาวอเมริกันมั่นใจในการลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกประธานาธิบดีแม้ว่าจะมีบางประเทศพยายามที่จะเผยแพร่ข้อมูลผิดๆเพื่อบั่นทอนความเชื่อมั่นในการเลือกตั้งของสหรัฐก็ตาม

ขอขอบคุณ  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

- Advertisement -