สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 22 ก.ค.67
จับตาสถานการณ์ตลาดทองคำใกล้ชิด หลัง “โจ ไบเดน” ประกาศถอนตัวชิง ปธน.สหรัฐ จะหนุนกลับไปทดสอบ $2,483 หรือลงไป $2,380
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
.
รับชมคลิป สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้
มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ (22 ก.ค.) สมาคมค้าทองคำประกาศราคาแรกเท่ากับราคาปิดเมื่อวันเสาร์
โดยทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 11.00 น. อยู่ที่ 41,400 บาท ส่วนราคารับซื้อ 41,300 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 41,900 บาท ส่วนราคารับซื้อ 40,553 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 36.34 บาทต่อดอลลาร์
ส่วนภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าเคลื่อนไหวผันผวน โดยในช่วงต้นสัปดาห์ ราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ (All Time High : ATH ) ที่ 2,483 ดอลลาร์
แต่หลังจากวันพุธเป็นต้นมานักลงทุนได้เริ่มเทขายทำกำไร ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ทยอยฟื้นตัวหลังนักลงทุนซึมซับกับสัญญาณเชิงบวกต่อแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่เฟดบางคน ที่ระบุว่ายังคงต้องประเมินข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจหลังจากนี้ต่อไปอีก เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้มากเพียงพอต่อการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อก่อนจะลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเวลาอันสมควรทำให้ราคาทองคำ gold spot ได้ปรับลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะวันศุกร์ปรับลดลงมากถึง 45 ดอลลาร์ โดยราคาลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 2,393 ดอลลาร์ ก่อนจะวกมาปิดตลาดที่ 2,400 ดอลลาร์
ขณะที่ในเช้าวันนี้ราคาทองคำ gold spot ได้ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังนายโจ ไบเดน ประกาศถอนตัวจากการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือน พ.ย. ปีนี้ พร้อมประกาศสนับสนุนนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อลงชิงชัยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ทาง Shining Gold มองว่า
ราคาทองคำ gold spot ยังได้รับปัจจัยหนุนเชิงบวกจากการที่ “โจ ไบเดน” ประกาศถอนตัว และสนับสนุนนางกมลา แฮร์ริส เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตแทน ทำให้ โดนัล ทรัมป์ ประกาศว่ายิ่งถ้าเปลี่ยนตัวเป็นแฮร์ริส จะยิ่งเอาชนะได้ง่ายขึ้น
หากพิจารณาจากปัจจัยทางเทคนิคดูเหมือนราคาทองคำจะทำ Technical Rebound ขึ้นได้ประกอบปัจจัยพื้นฐานทำให้สามารถลุ้นการรีเทสต์ 2,420 และ 2,440 ดอลลาร์ได้ไม่ใช่เรื่องยาก
แต่การจะเปลี่ยนเป็นเทรนด์ขาขึ้นต่อเนื่องแบบสตรองเทรนด์ ก็ต้องสามารถขึ้นไปซ่อมเทรนด์ที่เป็นเพียงไส้เทียนรายสัปดาห์ให้สามารถ Break Body Top 3 จนสำเร็จก่อน
ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาพิจารณากันอีกสักพัก โดยกลยุทธ์การลงทุนรอราคาย่อตัว ให้ Open Long ที่ 2,402 และ 2,392 มีจุด SL ที่ 2,380 ดอลลาร์ ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 2,418 /2,427 และ 2,440 ดอลลาร์
ด้าน YLG Bullion แนะนำว่า
รอจังหวะแบ่งขายหากราคาทองคำ gold spot ปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 2,431-2,450 ดอลลาร์ ทยอยซื้อคืนเพื่อทำกำไร หากราคาอ่อนตัวลงเคลื่อนไหวบริเวณ 2,393-2,387 ดอลลาร์ สถานะขายตัดขาดทุนหากราคาทองคำ gold spot ผ่านแนวต้านระดับ 2,450 ดอลลาร์
ขณะที่ ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า
ราคาทองคำ gold spot ได้ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 2,483 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่ Fed อาจปรับลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดจากตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มที่อ่อมแอลง จึงมีความเป็นไปได้ที่ Fed อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ได้ถึง 3 รอบ
อย่างไรก็ตามราคาทองคำ gold spot ต้องเผชิญกับแรงขายทำกำไรจนราคากลับลงมาตั้งฐานที่ระดับ 2,395 ดอลลาร์ ซึ่งฮั่วเซ่งเฮง มองว่าราคาทองคำ gold spot มีโอกาสกลับตัวจากแนวรับนี้ ส่งให้ราคาทองคำโลกให้สามารถกลับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง
ส่วน GCAP Gold แนะ
รอซื้อที่ 2,399 ดอลลาร์ มีแนวรับที่ 2,399 /2,394 และ 2,389 ดอลลาร์ Stop Loss ที่ 2,385 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,420 /2,425 และ 2,430 ดอลลาร์
ปิดท้ายกันที่ประเด็นเศรษฐกิจสำคัญที่น่าต้องติดตามในสัปดาห์นี้ วันพุธที่ 24 กรกฎาคม จะมีการประกาศ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการขั้นต้นเดือน ก.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล
ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม มีตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2567 (ประมาณการเบื้องต้น)
ปิดท้ายที่วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม จะมีตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน มิ.ย. และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (ประมาณการครั้งสุดท้าย)