สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 10 พ.ย.66
ชาวดอยเริ่มมีรอยยิ้ม หลังทองไทยพลิกกลับมาบวก 350 บาท เหตุ gold spot เพิ่มขึ้น – บาทอ่อนค่า
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
.
.
รับชมคลิป สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้
ราคาทองคำไทย เช้านี้ (10 พ.ย.) กลับมาบวก 350 บาท โดยราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ที่ สมาคมค้าทองคำ ประกาศ ราคาแรกของวันอยู่ที่ 33,150 บาท ส่วนราคารับซื้อ 33,050 บาท
ขณะที่ ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 33,650 บาท ส่วนราคารับซื้อ 32,457.56 บาท เงินบาท 35.78 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคาทองคำในประเทศที่ปรับขึ้นแรง มาจากเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่า โดยเช้านี้เปิดที่ 35.89 บาทต่อดอลลาร์ โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลกจากการที่ดอลลาร์แข็งค่าหลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณยังไม่ปิดทางเลือกที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ
ส่วนวันนี้ คาดเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.65 – 35.95 บาท/ดอลลาร์
ทั้งนี้ ShiningGold ระบุว่า
เมื่อวานนี้ นักลงทุนระยะกลางที่เริ่มเข้าสะสมตั้งแต่ราคาต่ำกว่า 32,800 บาท หากราคาสามารถกลับมาทะลุ 33,300 บาทขึ้นไปได้ จะมีรอบให้สามารถทำกำไรได้มากขึ้นในช่วง 33,350-33,700 บาท หากพอใจกำไรก็สามารถขายทำกำไร แล้วรอการย่อตัวแบ่งไม้เข้าสะสมใหม่ แต่หากราคาไม่สามารถทะลุ 33,300 บาทขึ้นมาได้ ก็จะย่อตัวลงมาให้สามารถเลือกสะสมกันใหม่ในราคาอื่น ๆ เข้าพอร์ตต่อไปได้
โดย ShiningGold ให้แนวรับที่ 33,000 และ 32,800 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 33,250 และ 33,400บาท
มาดูราคาราคาทองคำ spot วานนี้ (9 พ.ย.) ราคาทองคำรีบาวด์ หลังร่วงลง 3 วันติดต่อกัน โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 9 ดอลลาร์ โดยมาปิดตลาดที่ 1,958 ดอลลาร์ แม้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวในงานเสวนาของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่า ยังไม่มั่นใจว่าอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงมากพอที่จะฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ได้หรือไม่
แต่เฟดไม่ต้องการให้นโยบายการเงินมีความเข้มงวดมากเกินไป โดยขณะนี้ กำลังประเมินว่า ควรจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกหรือไม่ และจากนั้นจะประเมินว่าควรตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเท่าใด
อย่างไรก็ดี การดำเนินนโยบายการเงินในขั้นต่อไปนั้น จะดำเนินการอย่างระมัดระวังเพื่อให้มีเวลาในการแก้ไขปัญหาความเสี่ยงที่เป็นผลมาจากการประเมินที่ผิดพลาดเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจ และความเสี่ยงของการใช้นโยบายที่เข้มงวดมากเกินไป โดยจะตัดสินใจในการประชุมแต่ละครั้ง
หลังการแสดงความเห็นของ นายพาวเวลฯ ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในปีนี้ แต่การเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าอาจจะถูกเลื่อนออกไป
ส่วนการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยกองทัพอิสราเอลยืนยันว่าไม่ได้มีข้อตกลงที่จะมีการหยุดยิง โดยกองทัพยังคงใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา แต่จะอนุญาตให้มีการพักการสู้รบทางยุทธวิธีเป็นเวลา 4 ชั่วโมง เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
คืนนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ย. ของ ม.มิชิแกน (เบื้องต้น) ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 63.7 จาก 63.8 ในเดือน ต.ค.
ไปดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในประเทศไทย
ทาง AUSIRIS ระบุว่า
ภาพรวมใหญ่ของราคาทองคำ spot มีแนวโน้มปรับตัวลง โดยกราฟแท่งเทียนได้หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน และ 100 วัน ใน timefame 4H โดยเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าวเริ่มชะลอตัวในการทำ slope (ความชัน) ติดลบ และตัดเส้นค้าเฉลี่ย 100 วัน แนวโน้มขาลงเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น ฝั่งขายกลับมาได้เปรียบตลาด
โดย AUSIRIS ให้แนวรับ gold spot ที่ 1,953 และ 1,944 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,970 และ 1,977 ดอลลาร์
ขณะที่ InterGold มองว่า
ราคาทองคำไทยปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือ 33,000 บาท เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยกลยุทธ์ลงทุนวันนี้ แนะนำรอซื้อที่ 1,950 ดอลลาร์ หรือ 33,050 บาท และรอขายที่ 1,970 ดอลลาร์ หรือ 33,250 บาท
ด้าน T.D.C Gold ระบุว่า
ประธานเฟด กล่าวว่า นโยบายการเงินในปัจจุบันยังยึดมั่นกับการทำให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบ 2% แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่ถึงเป้าหมายดังกล่าว และกำลังพิจารณาถึงผลเสียหากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปจะทำให้เงินเฟ้อเร่งกลับมา
ขณะที่ หากขึ้นอัตราดอกเบี้ยเยอะเกินไปอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงแรง ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงในช่วงแรกก่อนที่จะฟื้นขึ้นมาเล็กน้อย ทั้งนี้ T.D.C Gold มองราคาทองคำเริ่มทรงตัวในกรอบ
ปิดท้ายที่ GCAP Gold
แนะรอซื้อที่ 1,949 ดอลลาร์ โดยมีแนวรับที่ 1,949/1,944 และ 1,938 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,968/1,973 และ 1,978 ดอลลาร์ stop loss ที่ 1,935 ดอลลาร์