เกาะติดทิศทางราคาทองคำและดัชนีทองคำ พ.ย.66
สัมภาษณ์พิเศษ ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยทองคำ
สถิติรอบ 10 ปี ชี้ชัด เทคนิคซื้อทองคำปลายปีขายต้นปียังไม่เคยทำให้นักลงทุนผิดหวัง
ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
.
.
รับชมคลิป เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้
ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวกลับ GoldAround ว่า
ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือน พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค. 2.90 จุด หรือคิดเป็น 4.93% มาอยู่ที่ระดับ 61.79 โดยนักลงทุนมีความต้องการจะซื้อทองคำมากถึง 54% เพราะมองว่าราคาทองคำไทยได้ปรับลดลงมากถึง 1,000 บาท จากจุดสูงสุดรอบที่ผ่านมาที่ระดับ 34,000 บาท
ขณะที่ มุมมองของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และ ผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ ก็มองว่าราคาทองคำในเดือน พ.ย. จะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน ต.ค.66
โดยมองว่าราคาทองคำ spot จะอยู่ในกรอบ 1,900 – 2,023 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% จะอยู่ในกรอบ 32,500 – 34,300 บาท
ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการเก็บสถิติในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงในช่วงปลายเดือน พ.ย. ต่อเดือน ธ.ค. ซึ่งจะเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อสะสม เพื่อไปทำกำไรในช่วงต้นปี ซึ่งจะเป็นช่วงหน้า เทศกาลทั้งในอินเดียและประเทศจีน ทำให้มีกำลังซื้อในส่วนของทองคำเพื่อใช้งานจริง ค่อนข้างสูง และจะดันราคาทองคำให้เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนั้น ทองคำยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้วในปีนี้ เพราะเงินเฟ้อลดลงและตัวเลขการจ้างงานไม่สู้ดี ทำให้ราคาทองคำ spot มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญแถว 2,000 ดอลลาร์ หากว่าไม่สามารถยืนแนวดังกล่าวได้ มีโอกาสที่จะปรับลดลงมา โดยมีแนวรับแถว 1,975 -1,950 -1,930 และ 1,907-1,905 ดอลลาร์
ทั้งนี้ ต้องรอดูว่าเฟดจะมีนโยบายเรื่องดอกเบี้ยอย่างไร หากว่าจะเริ่มลดดอกเบี้ย ก็อาจจะทำให้ค่าเงิน US Dollar กลับมาอ่อนค่า เพราะเม็ดเงินจะไหลออก US Dollar ไปยังสินทรัพย์อื่น ๆ รวมถึงทองคำ
ส่วนปัญหาการสู้รบระหว่างอิสราเอลและลุ่มฮามาส แม้ในช่วงนี้ข่าวสารที่ออกมาจะมีไม่มาก แต่การสู้รบในพื้นที่ก็ยังคงเกิดขึ้น และจะเป็นอีกปัจจัยที่ต้องติดตามใกล้ชิด เพราะอาจส่งผลต่อราคาทองคำได้
ส่วนเรื่องของค่าเงินบาท ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าเคลื่อนไหวผันผวน หลังจากหลุดแนวรับสำคัญแถว 35.80 บาท ทำให้มีโอกาสที่จะลงไปแถว 34 บาทได้ เพราะหากจะดูจากจุดเริ่มต้นของค่าเงินบาทปีนี้มาจาก 32-33 บาทต่อดอลลาร์ และขึ้นไปแตะจุดสูงสุดแถว 37 บาทต่อดอลลาร์
หากรอบนี้เงินบาทจะแข็งค่ามาแถว 34 บาท ก็มีความเป็นไปได้ เพราะจะเป็นช่วง 50% จากจุดสูงสุดในรอบนี้ และอาจจะกดดันให้ราคาทองคำลดลงหลุด 33,000 บาท ลงไปแถว 32,700-800 บาท ถือเป็นแนวรับแรก และจุดที่น่าสนใจจะอยู่แถว 32,500-32,600 บาท เป็นช่วงราคาที่น่าเก็บสะสม และหากยังลงไปถึง 32,000 บาท จะเป็นแนวที่เก็บสะสมระยาว
“ใน 10 ปีที่ผ่านมา ราคาทองคำมักจะปรับตัวลดลงช่วงประมาณ เดือน พ.ย. ต่อเดือน ธ.ค. พอไปในช่วงต้นปี ราคาจะมีการปรับตัวสูงขึ้นมาต่อเนื่อง ซึ่งเทคนิคในการซื้อทองคำในช่วงปลายปีเพื่อไปขายในช่วงต้นปี ยังไม่เคยทำให้นักลงทุนผิดหวัง” ผอ.ศูนย์วิจัยฯ กล่าวทิ้งท้าย