Site icon Gold Around

ราคาทองคำน่าซื้อเก็บเพื่อลุ้นผลประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า

13 มีนาคม 2563

ราคาทองคำ รีบาวด์กลับขึ้นมาเล็กน้อย หลังร่วงไปกว่า 80 ดอลลาร์ คืนนี้เกาะติดดัชนีดาวโจนส์ว่าจะไปในทิศทางใด หลังกอดคอกันร่วงมาหลายวัน แต่หากมองภาพใหญ่ราคาทองคำยังสดใส พร้อมแนะซื้อเก็บตามจุดแนวรับสำคัญ เพื่อไปลุ้นผลการประชุมเฟดที่จะออกมาตรการรับมือผลกระทบจากไวรัส โควิด-19 ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะดันราคาทองคำทะยานขึ้นอีกรอบ

คุณเอเกต ตัณฑชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

คุณเอเกต ตัณฑชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด กล่าวกับเว็บไซต์ GoldAround.com ถึงการเคลื่อนไหวของ ราคาทองคำ ว่า จากการเก็บสถิติการเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำจะล้อไปกับดัชนีดาวโจนส์ เพราะตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง ราคาทองคำ และดัชนีดาวโจนส์ลดลงคู่กันมาโดยตลอด โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ได้ร่วงลงมาอย่างหนัก และต่อเนื่องหลายวัน ทำให้ราคาทองคำเมื่อคืนนี้ร่วงลงหนัก เพราะนักลงทุนได้เทขายทองคำเพื่อนำเงินไปเติม Margin และโปะการขาดทุนในตลาดหุ้น ทำให้การขึ้น-ลง ของราคาทองคำในช่วงนี้จึงไปผูกกับดัชนีดาวโจนส์เป็นหลัก ซึ่งคืนนี้จะต้องมาเฝ้าติตดามว่าดัชนีดาวโจนส์จะลดลงอีกหรือไม่

อย่างไรก็ดียังมองว่าเทรนด์ใหญ่ของราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น เพราะมีปัจจัยหนุนมากมาย โดยเฉพาะเรื่องนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ที่ออกมารับมือกับผลกระทบจากไวรัส โควิด-19 และทองคำก็ยังคงเป็น Safe Heven เพียงแค่การเคลื่อนไหวของราคาในช่วงนี้ จะต่างกับครั้งที่เกิดวิกฤตเมื่อปี 2008 เพราะปัจจัยโดยรอบต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อมูลข่าวสาร จำนวนผู้เล่น ความสะดวกในการทำธุรกรรม ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำจึงค่อนข้างผันผวน

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของทองคำในวันนี้ว่า หลังจากที่ราคาทองคำได้ลดลงมากว่า 80 ดอลลาร์ ราคาก็ได้มีการรีบาวด์กลับมาก่อนขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,593 ดอลลาร์ แต่ไม่ผ่านและได้กลับมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,578 – 1,585 ดอลลาร์ และหากราคายังยืนในระดับนี้ไม่ได้ ก็อาจจะลงไปทดสอบแนวรับเดิมที่ 1,560 ดอลลาร์ และแนวรับสุดท้ายที่ 1,544 ดอลลาร์ ซึ่งราคาไม่ควรจะหลุดแนวรับตรงจุดนี้ เพราะมิฉะนั้นราคาแนวรับจะหลุดที่ลึกสุดที่ 1,508 ดอลลาร์

กรอบการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงนี้ ค่อนข้างกว้างประมาณ 50 ดอลลาร์ เพราะฉะนั้นการเข้าซื้อ แนะนำให้นักลงทุนกำหนดระดับราคาเป็นจุดตามแนวรับสำคัญ คือ ที่ระดับ 1,565 ดอลลาร์ ,ระดับ 1,512 ดอลลาร์ และระดับ 1,472 ดอลลาร์ หรือหากคิดเป็นเงินบาท จะอยู่ที่ระดับราคา 23,800-23900 บาท ระดับราคา 23,500 บาท และระดับราคา 23,300 บาท

หากนักลงทุนที่ยังไม่มีทองคำในพอร์ท มองว่าสามารถเข้าซื้อได้ในระดับราคา 1,560-1,578 ดอลลาร์ และสามารถขายทำกำไรได้ในระดับราคาที่ต้องการ หรือหากจะซื้อเก็บเพื่อรอลุ้นผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ในช่วงสัปดาห์หน้าก็สามารถทำได้ เพราะจากการคาดการณ์ของนักลงทุนหลายสำนักมองตรงกันว่า จะต้องมีการลดดอกเบี้ยลงอีกอย่างแน่นอน และหากเฟด ตัดสินใจลดดอกเบี้ย ลง 1 % อาจจะทำให้ราคาทองคำพุ่งไปแตะระดับ 1,665-1,668 ดอลลาร์ แต่หากปรับลดเพียง 0.5% อาจจะทำให้ราคาทองคำพุ่งไปแตะระดับ 1,638 ดอลลาร์ ก็เป็นได้

ขอขอบคุณ บริษัท ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Exit mobile version