แนะนำซื้อขายทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวของราคา หลังจากราคาขยับขึ้นอาจมีแรงขายออกมาเพิ่ม แต่หากราคาอ่อนตัวลง แล้วมีแรงซื้อหนาแน่นมากพอที่จะพยุงราคาไว้ยังมีโอกาสที่ราคาจะฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้นอีกครั้ง
แนวรับ : 1,888 1,872 1,863 แนวต้าน : 1,922 1,934 1,943
สรุป
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระหว่างการซื้อขายราคาทองคำถูกกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากแรงซื้อสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังรอบใหม่ของสหรัฐ แม้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐ จะให้สัมภาษณ์ผ่าน FOX BUSINESS NETWORK แสดงความพร้อมที่จะ “เพิ่มวงเงิน” ในมาตรการดังกล่าวให้ “สูงกว่า” ระดับ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ ส่วนนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ส่งสัญญาณประนีประนอมกับนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยระบุว่าจะไม่ยอมปล่อยให้ความขัดแย้งในเรื่องวงเงินในโครงการตรวจหาเชื้อ COVID-19 มาทำให้การเจรจาสะดุดลง อย่างไรก็ดี นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภาสหรัฐฯกลับออกมา “ปฏิเสธ” กับแนวคิดในการเพิ่มวงเงินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ ประกอบกับปอนด์และยูโรอ่อนค่าลงจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ในยุโรปจึงเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์เพิ่มเติมส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,888.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะมีแรงซื้อ Buy the dip ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเส้นทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.นี้ จึงทำให้ราคาทองคำทะยานขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน สู่ระดับสูงสุดที่ 1,908.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลด -1.88 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดค้าปลีก, อัตราการใช้กำลังผลิต, การผลิตภาคอุตสาหกรรมและคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก UoM
ข่าวสารประกอบการลงทุน :
- (+) “ทรัมป์” เผยไม่ได้คุยกับ “สี จิ้นผิง” ระยะหนึ่งแล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาไม่ได้สนทนากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และเขาไม่มีความต้องการที่จะสนทนากับผู้นำจีนแต่อย่างใด “ผมไม่ได้คุยกับเขามาระยะหนึ่งแล้ว เพราะผมไม่ต้องการคุยกับเขา” ปธน.ทรัมป์กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Fox ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า เขามีความกังวลต่อการดำเนินการของจีนในการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์เปิดเผยว่า จีนยังคงสั่งซื้อสินค้าสหรัฐภายใต้ข้อตกลงการค้าที่ทั้งสองฝ่ายทำไว้ในเดือนม.ค.
- (+) เฟดนิวยอร์คเผยดัชนีภาคการผลิตต่ำกว่าคาดในเดือนต.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ลดลงสู่ระดับ 10.5 ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 12.3 จากระดับ 17.0 จุดในเดือนก.ย.
- (+) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 898,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 830,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 845,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
- (-) เฟดฟิลาเดลเฟียเผยดัชนีภาวะธุรกิจมิด-แอตแลนติกสูงกว่าคาดในเดือนต.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก พุ่งขึ้นสู่ระดับ 32.3 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดก่อนการประกาศล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 14.0 จากระดับ 15.0 ในเดือนก.ย.
- (-) ดอลล์แข็งค่า เหตุวิตกโควิดหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และความไม่แน่นอนในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.51% แตะที่ระดับ 93.8628 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.46 เยน จากระดับ 105.10 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9151 ฟรังก์ จากระดับ 0.9131 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3226 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3145 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1696 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1750 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2900 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3023 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7091 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7166 ดอลลาร์สหรัฐ
- (-) ผู้นำวุฒิฯสหรัฐขวางเพิ่มวงเงินมาตรการกระตุ้นศก.สูงกว่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวว่า เขาไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่จะเพิ่มวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสูงกว่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเขาเห็นว่าวงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์มีความเหมาะสมต่อการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 “สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาให้การสนับสนุนมาตรการวงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์ โดยเห็นว่าเป็นวงเงินที่เหมาะสม” นายแมคคอนเนลล์กล่าว
- (-) มาตรการกระตุ้นศก.ส่งสัญญาณคืบหน้า หลัง “มนูชิน” ยอมอ่อนข้อ “เพโลซี” นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ส่งสัญญาณประนีประนอมกับนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เกี่ยวกับการเจรจาต่อรองมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยกล่าวว่า ทำเนียบขาวจะไม่ยอมปล่อยให้ความขัดแย้งในเรื่องวงเงินในโครงการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 มาทำให้การเจรจาสะดุดลง “เราได้ตกลงกับพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับวงเงิน 1.78 แสนล้านดอลลาร์สำหรับโครงการด้านสาธารณสุขโดยรวม และได้ตกลงกันเกี่ยวกับวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับโครงการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และการตรวจสอบหาแหล่งแพร่ระบาด แต่สิ่งที่เรากำลังให้ความสนใจคือการใช้ถ้อยคำในโครงการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และเมื่อผมคุยกับคุณเพโลซีในวันนี้ ผมจะบอกเธอว่า เราจะไม่ยอมให้เรื่องโครงการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 มาขัดขวางการเจรจา” นายมนูชินกล่าว
- (+/-) ดาวโจนส์ปิดลบ 19.80 จุด วิตกว่างงานสูงกว่าคาด,มาตรการกระตุ้นศก.ไม่คืบ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขคนว่างงานที่สูงกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ รวมทั้งการที่หลายประเทศในยุโรปประกาศมาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,494.20 จุด ลดลง 19.80 จุด หรือ -0.07% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,483.34 จุด ลดลง 5.33 จุด หรือ -0.15% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,713.87 จุด ลดลง 54.86 จุด หรือ -0.47%
ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)