หาจังหวะเมื่อราคาดีดตัวขึ้น ให้เปิดสถานะขาย หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,900-1,911 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งเข้าซื้อคืนเพื่อทำกำไรบางส่วน หากราคาอ่อนตัวลงเข้าใกล้โซนแนวรับ 1,872-1,863 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ : 1,872 1,863 1,847 แนวต้าน : 1,900 1,911 1,925
สรุป
ราคาทองคำวานนี้ปิดดิ่งลง 30.87 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างๆดังนี้ 1.) แรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย จากความวิตกเกี่ยวกับการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐที่มีแนวโน้มล่าช้า หลังจากแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ “ปฏิเสธ” ข้อเสนอล่าสุดของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ให้ “เพิ่มวงเงิน” ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสู่ระดับ 1.8 ล้านล้านดอลล์ โดยมองว่าข้อเสนอดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการเยียวยาผลกระทบของ COVID-19 สะท้อนว่ามาตรการดังกล่าวอาจยังไม่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.นี้ นอกจากนี้ดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนและยารักษา COVID-19 หลัง Johnson & Johnson “ระงับ” การทดลองวัคซีนต้าน COVID-19 ชั่วคราว ส่วน Eli Lilly & Co ตัดสินใจ “ระงับ” การรับอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองแอนติบอดีสำหรับการรักษา COVID-19 2.) การอ่อนค่าของเงินปอนด์ จากความวิตกเกี่ยวกับ no-deal Brexit ขณะที่อัตราการว่างงานของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นกว่าคาดสู่ระดับ 4.5% กดดันปอนด์เพิ่ม และ 3.) การอ่อนค่าของเงินยูโร หลังดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีร่วงลงเกินคาดสู่ระดับ 56.1 ในเดือนต.ค. ซึ่งการอ่อนค่าของเงินปอนด์และยูโรสร้างแรงหนุนเพิ่มเติมให้กับดอลลาร์ ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น +0.5% จนกดดันให้ราคาทองคำดิ่งลงกว่า 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับสูงสุดในระหว่างวันสู่ระดับต่ำสุดบริเวณ 1,886 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)ของสหรัฐ
ข่าวสารประกอบการลงทุน :
- (-) Eli Lilly ระงับการทดลองแอนติบอดีรักษาโรคโควิด-19 เหตุกังวลความปลอดภัย Eli Lilly & Co ซึ่งเป็นบริษัทยาของสหรัฐ เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ตัดสินใจระงับการรับอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองแอนติบอดีสำหรับการรักษาโรคโควิด-19 เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย Eli Lilly & Co ระบุในแถลงการณ์ว่า คณะกรรมการติดตามความปลอดภัยด้านข้อมูลของบริษัทได้แนะนำให้ระงับการรับอาสาสมัครทดลองแอนติบอดีในโครงการทดลองซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ โดยแอนติบอดีชนิดนี้เป็นโมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibody) ที่ Eli Lilly & Co ใช้ทดลองรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ควบคู่กับการใช้ยาเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) ของบริษัทกิลเลียด ไซแอนเซส (Gilead Sciences) “ความปลอดภัยถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก” โฆษกของ Eli Lilly & Co กล่าว แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คณะกรรมการฯกังวลเรื่องความปลอดภัยและแนะนำให้ระงับโครงการดังกล่าว
- (-) ZEW เผยดัชนีความเชื่อมั่นเยอรมนีต่ำกว่าคาดในเดือนต.ค. ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีร่วงลงสู่ระดับ 56.1 ในเดือนต.ค. จากระดับ 77.4 ในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 73.0
- (-) สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมสูงสุดรอบ 7 เดือนในก.ย. สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) แถลงในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมพุ่งขึ้น 3.8 จุด สู่ระดับ 104 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือนก.พ.
- (-) เงินดอลล์แข็ง หลังจอนห์สันฯระงับทดลองวัคซีน ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ประกาศระงับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังพบว่าผู้เข้าร่วมโครงการทดลองรายหนึ่งล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.50% แตะที่ระดับ 93.5329 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียกบับเงินเยน ที่ระดับ 105.49 เยน จากระดับ 105.34 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9145 ฟรังก์ จากระดับ 0.9093 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3140 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3114 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1744 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1810 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2933 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3063 ดอลลาร์
- (+/-) สหรัฐเผยดัชนี CPI ดีดตัวเดือนที่ 4 ในก.ย. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดีดตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. ก่อนหน้านี้ ดัชนี CPI ดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย.และก.ค. หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 3 เดือน โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการชัตดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 1.4% ในเดือนก.ย. หลังจากดีดตัวขึ้น 1.3% ในเดือนส.ค. การปรับตัวขึ้นของดัชนี CPI ในเดือนก.ย.ได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้น 6.7% ของราคารถยนต์มือสอง และรถบรรทุก นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเทียบรายปี
- (+/-) ดาวโจนส์ปิดลบ 157.71 จุด วิตกข่าวบริษัทยาระงับทดลองวัคซีน ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ระงับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้เข้าร่วมการทดลองรายหนึ่งล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ และบริษัท Eli Lilly & Co ประกาศระงับการรับอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองแอนติบอดีสำหรับการรักษาโรคโควิด-19 เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,679.81 จุด ลดลง 157.71 จุด หรือ -0.55% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,511.93 จุด ลดลง 22.29 จุด หรือ -0.63% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,863.90 จุด ลดลง 12.36 จุด หรือ -0.10%
ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)