Site icon Gold Around

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 25 ก.ย.63 (HGF)

ฮั่วเซ่งเฮง

ฮั่วเซ่งเฮง

ทองคำฟื้นตัว จากเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลง

คืนนี้สหรัฐจะประกาศยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค.

แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ  1,845-1,882ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,867.50+5.11,845/1,8201,882/1,900

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
27,750-40027,550/27,20028,050/28,250

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,130+30027,710/27,38028,220/28,440

แนะนำเปิดสถานะขายเมื่อราคาทอง Spot ปรับขึ้นมาที่บริเวณ 1,882 ดอลลาร์ (GF 28,220 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,900 ดอลลาร์(GF 28,440บาท)

การลงทุนในทองแท่งแนะนำแบ่งเงินทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,845 ดอลลาร์ และ1,800-1,820 ดอลลาร์

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,869.10+21.001,847/1,8221,884/1,902

แนะนำเปิดสถานะขายเมื่อราคาทอง Spot ปรับขึ้นมาที่บริเวณ 1,884 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,902 ดอลลาร์

เงินบาท

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าโดยเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐสูงกว่าตลาดคาดความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเลือกตั้งในสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ปฏิเสธที่จะให้คำมั่นสัญญาว่าการส่งมอบอำนาจบริหารจะเป็นไปอย่างราบรื่น หากพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.ซึ่งUSD Futures เดือนธ.ค.63คาดจะมีแนวรับที่ 31.45 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.65 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: เงินดอลล์อ่อนหลังสหรัฐเผยตัวเลขว่างงานพุ่ง

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (24 ก.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวนหลังสหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้วดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.04% แตะที่ระดับ 94.3565 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดบวก $8.5 นักลงทุนช้อนซื้อหลังราคาร่วงหนักก่อนหน้านี้

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (24 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้นอกจากนี้การเปิดเผยจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่สูงเกินคาดในสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.5 ดอลลาร์หรือ 0.45% ปิดที่ 1,876.9 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.1 เซนต์หรือ 0.39% ปิดที่ 23.196 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดบวก 38 เซนต์หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (24 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงติดต่อกัน 2 สัปดาห์อย่างไรก็ดีความกังวลที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในยุโรปจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันได้สกัดแรงบวกของราคาน้ำมันสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์หรือ 1% ปิดที่ 40.31 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 17 เซนต์หรือ 0.4% ปิดที่ 41.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดบวก 52.31 จุดรับความหวังมาตรการเยียวยา,หุ้นเทคโนฯพุ่ง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (24 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรวมทั้งรายงานยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีและความหวังที่ว่าสภาคองเกรสและทำเนียบขาวจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่อย่างไรก็ดีบรรยากาศการซื้อขายในตลาดถูกกดดันจากการที่ประธานาธิบโดนัลด์ทรัมป์ปฏิเสธที่จะให้คำมั่นสัญญาว่าการส่งมอบอำนาจบริหารจะเป็นไปอย่างราบรื่นหากเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,815.44 จุดเพิ่มขึ้น 52.31 จุดหรือ +0.20% ขณะที่ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,246.59 จุดเพิ่มขึ้น 9.67 จุดหรือ +0.30% ส่วนดัชนีNasdaq ปิดที่ 10,672.27 จุดเพิ่มขึ้น 39.28 จุดหรือ +0.37%

ปธ.เฟดชิคาโกชี้ศก.สหรัฐอาจถดถอยหากคองเกรสไม่อนุมัติมาตรการกระตุ้นศก.

นายชาร์ลส์อีแวนส์ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกกล่าวว่าสหรัฐเผชิญความเสี่ยงที่จะมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ล่าช้าหรืออาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหากสภาคองเกรสไม่สามารถอนุมัติมาตรการทางการคลังในการเยียวยาชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19นายอีแวนส์คาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะปรับตัวลงสู่ระดับ5.5%ในปลายปีหน้านายอีแวนส์ยังระบุว่าเขาไม่คาดว่าเฟดจะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเร็วๆนี้ขณะนี้เฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน8หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนและซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน4หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดการเงินประธานเฟดสาขาชิคาโกยังกล่าวว่าปัจจัยความไม่แน่นอนในขณะนี้ได้แก่นโยบายทางการคลัง, การควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19รวมทั้งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ฟูจิฟิล์มเตรียมขออนุมัติใช้ยาAviganรักษาผู้ป่วยโควิด-19

บริษัทฟูจิฟิล์มโฮลดิ้งส์คอร์ปของญี่ปุ่นได้ออกมายืนยังถึงประสิทธิภาพของยาAviganในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และเตรียมยื่นขออนุมัติจากรัฐบาลในช่วงต้นเดือนหน้าเพื่อใช้ยาดังกล่าวสำนักข่าวซินหัวรายงานว่ายาAviganหรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าfavipiravirเป็นยารักษาโรคไข้หวัดใหญ่ซึ่งผลิตโดยบริษัทฟูจิฟิล์มโทยามะเคมิคอลซึ่งเป็นบริษัทลูกของฟูจิฟิล์มโฮลดิ้งส์ฟูจิฟิล์มเปิดเผยว่าจากการวิเคราะห์ข้อมูลการทดลองทางคลินิกของผู้ป่วย 156 รายซึ่งมีอายุตั้งแต่ 20-74 ปีและมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยพบว่ากลุ่มที่ได้รับยาต้องใช้เวลา 11.9 วันก่อนที่อาการจะดีขึ้นขณะที่กลุ่มที่ได้รับยาหลอกต้องใช้เวลา 14.7 วันหากได้รับการอนุมัติยาAviganจะเป็นยารักษาโรคโควิด-19 ลำดับที่ 3 ในญี่ปุ่นต่อจากยาต้านไวรัสremdesivirและยาสเตียรอยด์dexamethasone     ทั้งนี้การทดลองยาAviganทางคลินิกเริ่มต้นครั้งแรกเมื่อเดือนมี.ค. เพื่อตรวจสอบว่ายามีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่โดยก่อนหน้านี้บริษัทหวังว่าจะดำเนินการวิจัยแล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย. แต่ช่วงเวลาถูกขยายออกไปเนื่องจากจำนวนของผู้ป่วยในประเทศปรับตัวลดลงจนถึงจุดที่ยากจะหาผู้ป่วยมาเข้าร่วมการทดลองได้

“ทรัมป์” จ่อขวางFDA แตะถ่วงอนุมัติวัคซีนโควิดชี้มีแรงจูงใจการเมือง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่าเขาอาจจะไม่อนุมัติมาตรฐานใหม่ที่คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กำหนดขึ้นอย่างเข้มงวดมากขึ้นสำหรับการใช้อำนาจตามมาตรการฉุกเฉิน (Emergency Use Authorization หรือEUA) เพื่ออนุมัติให้มีการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 อย่างเร่งด่วนโดยปธน.ทรัมป์กล่าวว่าข้อเสนอดังกล่าวของFDA อาจมีแรงจูงใจทางการเมืองหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าFDA จะออกคำแนะนำเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความไว้วางใจต่อสาธารณชนขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขได้แสดงความกังวลมากขึ้นว่าคณะบริหารของปธน.ทรัมป์อาจจะเข้าแทรกแซงกระบวนการอนุมัติเพื่อเร่งให้มีการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19  อย่างไรก็ดีปธน.ทรัมป์ได้ตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใดจึงต้องทำให้การใช้วัคซีนล่าช้าออกไปและกล่าวว่าข้อเสนอดังกล่าวของFDA ดูเหมือนมีแรงจูงใจทางการเมือง     “ดูเหมือนว่าเรื่องนี้มีแรงจูงใจทางการเมืองเพราะในเมื่อคุณมีบริษัทยายักษ์ใหญ่อย่างไฟเซอร์, จอห์นสันแอนด์จอห์นสันและโมเดอร์นาที่สามารถผลิตวัคซีนได้และบริษัทเหล่านี้ก็ได้เสร็จสิ้นการทดลองวัคซีนและการดำเนินการอื่นๆทุกอย่างแล้วด้วยเหตุนี้ผมจึงตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใดพวกเขาถึงทำให้กระบวนการอนุมัติวัคซีนล่าช้าออกไป” ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว

ขอขอบคุณ  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

Exit mobile version