ตลาด ทองคำ ผันผวนหนัก หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% และส่งสัญญาณจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราเดียวกัน ในการประชุม 2 ครั้งถัดไป
แต่ตลาดกลับไม่เชื่อ โดย Fed Fund Rate Futures ล่าสุด 13% มองขึ้นดอกเบี้ยเดือน มิ.ย. ที่ 0.5% และ 87% มองขึ้นรวดเดียว 0.75% ทำให้ราคาทองคำเมื่อวานนี้ได้ปรับตัวลดลงแรง
George Milling-Stanley, chief gold strategist at State Street Global Advisors กล่าวกับ Kitco News
ถึงการคาดการณ์ทิศทางราคาทองคำในช่วงหลังจากนี้ว่า ราคาทองคำจะขึ้นลงอยู่ในกรอบ 1,800 ถึง 2,000 ดอลลาร์ ในช่วงที่เหลือของปี แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงต่อสู้กับเงินเฟ้อด้วยนโยบายการเงินที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณว่า จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม 2 ครั้งถัดไป และ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปฎิเสธแนวคิดที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือ 1,900 ดอลลาร์ ในช่วงสั้น ๆ
โดย Milling-Stanley มองว่า
ปธ.เฟด ได้ให้คำแนะนำที่ดีแก่ตลาดเพื่อหลีกเลี่ยงความตื่นตระหนก แม้ว่าทองคำจะมีแนวต้านที่ค่อนข้างแข็งแรง ที่ 1,900 ดอลลาร์ แต่ตลาดทองคำยังคงแข็งแกร่ง ท่ามกลางความผันผวนในตลาดทุน โดยทองคำไม่มีอะไรต้องกลัวเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่ความกลัวดังกล่าวจะไปยังตลาดตราสารทุน
นอกจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นแล้ว ภัยคุกคามทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นในจีนและยุโรป และความไม่แน่นอนทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ทองคำเป็นสินทรัพย์หลบภัยชั้นดี และขณะนี้ มีภัยคุกคามต่อแนวโน้มของตลาดหุ้นมากกว่าตลาดทองคำ
Milling-Stanley ได้ชี้ถึงเหตุผลสำคัญอีกประการที่ทองคำไม่ต้องกลัวว่าเรื่องดอกเบี้ย
เพราะธนาคารกลางสหรัฐฯ มองว่า อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจะยังคงอยู่ในระดับต่ำจนถึงปี 2022 โดยตลาดคาดว่า อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.00% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผลกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งอัตราเงินเฟ้อจะทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำต่อไป
ที่มา : Kitco.com