นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระบุ แผนการเปิดเศรษฐกิจใกล้จะได้ข้อสรุปแล้ว โดยตนจะพูดคุยกับผู้ว่าการรัฐทั้งหมด และจะให้อำนาจแก่ผู้ว่าการรัฐเพื่อดำเนินการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยแต่ละรัฐจะมีแผนการดำเนินงานที่แตกต่างกัน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เชื่อว่าเชื่อว่าในบางมลรัฐจะสามารถยกเลิกมาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกับการแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา สาพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ได้ภายในวันที่ 1 พ.ค.นี้ หลังจากมาตรการเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ
ทั้งนี้ มาตรการจำกัดประชาชนอยู่แต่ในที่พักอาศัยของรัฐต่าง ๆ ช่วยลดการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ได้เป็นอย่างดี แต่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างหนัก โดยนาย เจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ระบุว่ามาตรการดังกล่าว สร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจอเมริการาว ๆ 25,000 ล้านดอลลาร์ต่อวัน
มาดูความเห็นในฝั่งคนในวงการแพทย์ นพ.แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติของสหรัฐฯ เตือนว่า การตั้งเป้าจะผ่อนปรนมาตรการการชัตดาวน์ในวันที่ 1 พฤษภาคม เร็วเกินไป เพราะหากจะเร่งดำเนินการเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะต้องตรวจไวรัสอย่างรวดเร็ว, กักกันโรคผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้อย่างทันท่วงทีก่อน จากนั้นถึงสามารถผ่อนปรนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมได้
ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ มีมากกว่า 25,400 คน ขณะที่ผู้ติดเชื้อมีมากกว่า 600,000 คน สูงที่สุดในโลก โดยมีรายงานว่าในสัปดาห์นี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 7% ต่อวัน น้อยกว่าสัปดาห์ที่แล้วที่อยู่ในระดับ 14% เช่นเดียวกับอัตราเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อในสัปดาห์นี้ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5% ต่อวัน น้อยกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาที่อยู่ในระดับ 7.8% ต่อวัน
แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวทำให้ดูเหมือนว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในสหรัฐฯ ได้ผ่านพ้นจุดเลวร้ายที่สุดไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข ระบุจำเป็นต้องตรวจคัดกรองประชาชนมากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อให้มั่นใจจากนั้นถึงจะกลับมาเปิดเดินเครื่องเศรษฐกิจได้อีกครั้ง