1 ในปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา ก็คือมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังรอบใหม่ วงเงิน 2.2.ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจนถึงขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามาถตกลงกันได้ และในเวลาบ่าย 3 ของวันอังคารตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้(/จ ก.ค.) เวลาตี 3 ตามเวลาในประเทศไทย นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ มีกำหนดจะหารืออีกครั้ง
“หากคองเกรสของสหรัฐ สามารถ ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังรอบใหม่ได้สำเร็จก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ วันที่3 พ.ย. จะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของสกุลเงิน ในทางตรงกันห้ามหากสภาคองเกรสของสหรัฐ ไม่สามารถ ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังรอบใหม่ได้ จะเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์ และกดดันราคาทองคำ” คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com
การเจรจาในเรื่องได้ดังกล่าวได้ยืดเยื้อมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว โดยทางเดโมแครตยืนยันว่าวงเงินที่จะมาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ต้องมากถึง 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ทางฝั่งรัฐบาลได้ยืนข้อเสนอไปเพียงแค่ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ ก็ถูกปฎิเสธกลับมา ทำให้ปธน.ทรัมป์ถึงกับประกาศว่า จะไปใช้มาตรการนี้หลังเลือกตั้ง ก่อนที่จะมีท่าที่ผ่อนคลายและเพิ่มวงเงินเป็น 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ก็ถูกปฎิเสธกลับมาอีกรอบ พร้อมขีดเส้นตายว่าหากจะใช้เงินก้อนนี้ให้ทันก่อนเลือกตั้งต้องหารือให้เสร็จภายในคืนนี้เท่านั้น
มาดูกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า แนวรับอยู่ที่ 1,872 ดอลลาร์ หรือบาทละ27,700 บาท และ1,847 ดอลลาร์ หรือบาทละ 27,300 บาท ส่วนแนวต้าน 1,922 ดอลลาร์ หรือ บาทละ28,450 บาท และ 1,948ดอลลาร์ หรือบาทละ 28,850บาท (Rate เงินบาทต่อดอลาร์ที่ระดับ:31.24 บาทต่อดอลลาร์)
แม้ว่าสัปดาห์นี้ราคาทองคำมีการยกระดับสูงสุดในรายวันขึ้นแต่เมื่อราคาปรับตัวขึ้น ก็มีแรงขายเพิ่มขึ้นจนราคากลับมาปิดตลาดใกล้ระดับต่ำสุดของวัน เบื้องต้นระยะสั้นหากราคาไม่หลุดกรอบแนวรับบริเวณ 1,882-1,872 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (เส้นค่าเฉลีย 100 วัน, Low ของเดือนต.ค. so far) ยังมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนว ต้าน 1,924-1,922 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (กรอบ Downtrend Line, โซน High ของสัปดาห์นี้ ,เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน)
แต่หากราคาหลุดโซนแนวรับดังกล่าว จะเกิดโมเมนตั้มเชิงลบมากขึ้น ซึ่งจะแรงขายกดดันให้ราคาลงมาสู่แนวรับถัดไปที่ 1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Low ของเดือนก.ย.)
ส่วนกลยุทธ์การลงทุน แนะนำทยอยขาย หากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,924-1,922 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ บาทละ 28,450 บาท เพื่อเข้าซื้อคืนหากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,872 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ บาทละ 27,700 บาท แต่หากหลุดแนวรับแรก แนะนำถอยจุดเข้าซื้อคืนไปที่แนวรับถัดไปบริเวณ 1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ บาทละ 27,300 บาทต่อบาททองคำ