6 เดือนแรกของปี 2563 ได้ผ่านพ้นไปท่ามกลางปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างมากมายจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19
ซึ่งขณะนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกมีมากกว่า 10 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 5 แสนคน ขณะที่ภาคเศรษฐกิจโดยรวมได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะภาคการลงทุน ทั้งไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น น้ำมัน ค่าเงิน ต่างปรับตัวลดลง ยกเว้นราคาทองคำที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ในช่วงครึ่งปีแรก ราคาทองคำขยายตัวถึง 19 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าในไตรมาสที่ 3 ราคาทองคำยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจทั่วโลกถดถอยจากผลพวงการแพร่ระบาดของ COVID-19 และจำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเป็นผลจากการใช้นโยบายการคลังของประเทศต่าง ๆ ผลประกอบการของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะออกมาไม่ดี ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยหนุนต่อการขยายตัวของราคาทองคำ
คุณ ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com
ทั้งนี้ คาดว่าในไตรมาส 3 จะได้เห็นราคาทองคำทะลุระดับ 1,800 ดอลลาร์ หลังจากนั้นเป้าหมายต่อไป ก็คือการทำลายสถิติสูงสุดที่เคยมีมาที่ระดับ 1,920 ดอลลาร์ แต่ราคาทองคำของไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มาก โดยคาดว่าราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณบาท 27,000 บาทเศษ ๆ เพราะค่าเงินบาทค่อนข้างจะแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ฟิวเจอร์ส จำกัด ได้แนะนำว่านักลงทุนควรจะมีทองคำในพอร์ตการลงทุนไว้ประมาณ 5-15 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละคน ทั้งนี้ การลงทุนระยะสั้น ยังสามารถทำได้ เพราะทั้งราคาทองคำและราคาหุ้น มีการปรับตัวขึ้นลงสลับกัน ทำให้สามารถทำกำไรได้ง่ายขึ้น แต่ที่สำคัญ คือ ต้องมีวินัยในการลงทุน โดยต้องมีจุด stop lost ทุกครั้ง
ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ฟิวเจอร์ส จำกัด