Site icon Gold Around

ราคาทองคำไร้แรงฮึด อาจถูกฉุดร่วงหลุด $1,800 แต่ระยะยาวยังมองทะยานไกล

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำวันนี้ ยังขยับในกรอบแคบ หลังจากช่วงต้นสัปดาห์ ราคาได้ทิ้งดิ่งจากระดับ 1,870 ดอลลาร์ หลุดแนวรับสำคัญที่ 1,850 ดอลลาร์ ลงมาทดสอบแนวรับ 1,800 ดอลลาร์ ก่อนที่วันนี้ราคาจะดีดตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวในกรอบ 1,805 -1,818 ดอลลาร์

แม้ว่าขณะนี้ราคาสามารถยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ได้ แต่แนวโน้มระยะสั้นยังมองว่ายังโอกาสที่ราคาจะย่อตัวลงไปแตะกรอบ 1,780-1,790 ดอลลาร์ และหากมีปัจจัยลบที่รุนแรงเข้ามาก็อาจจะดึงลงไปถึง 1,750 ดอลลาร์ได้ แต่ภาวนาว่าอย่าให้ลงไปถึงจุดนั้น เพราะอาจจะทำให้เทรนด์ของราคาทองคำเปลี่ยนไป ในทางกลับกันหากราคาสามารถกลับมายืนแนว 1,850 ดอลลาร์ได้จะถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ทั้งนี้ในระยะสั้นคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,790-1,850 ดอลลาร์

นาย ดนุ ชาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีแคป จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com  

ส่วนกรอบในระยะกลางซึ่งอาจจะกินเวลาไปจนถึงสิ้นปี มองว่าแนวต้านจะขยับไปอยู่ที่ 1,920 ดอลลาร์ และคงไม่พุ่งไปแตะ 2,000 ดอลลาร์ตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ยกเว้นจะมีเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายเข้ามา เพราะเมื่อมองภาพรวมปัจจัยหลักๆ ที่ส่งผลต่อราคาทองคำ จะเหลือเพียงการพิจารณาของ FDA แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำมากนัก เพราะตลาดคาดการณ์ไว้แล้วว่า FDA น่าจะอนุมัติให้ผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 ได้ เพราะผลการทดลองได้คืบหน้าไปเกือบจะ 100 %

ขณะที่ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของสหรัฐ ก็ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง และดูเหมือน “โดนัล ทรัมป์” เริ่มจะยอมรับผลการเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้คงจะต้องไปรอดูนโยบายของ “โจ ไบเดน” หลังรับตำแหน่งประธานาธิบดีในต้นปีหน้า ซึ่งคาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ตามมา โดยเฉพาะการแต่งตั้ง “เจเน็ต เยเลน” มานั่ง รมว.คลัง จะทำให้การทำงานในเรื่องนี้สะดวกมากขึ้น

กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีแคป จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนในระยะยาวยังเชื่อว่าทองคำยังขยายตัวได้อีกมาก เพราะแม้ว่าวัคซีนป้องกัน COVID-19 จะผ่านการอนุมัติให้ผลิตออกมาใช้งานได้ แต่ก็ยังไม่มีความมั่นใจว่าจะใช้ได้ผลเต็มที่เพียงไร เพราะการทดลองทำเพียงในกลุ่มตัวอย่าง ที่สำคัญกว่าจะผลิตวัคซีนออกมาให้ได้ใช้กันอย่างแพร่หลายจะต้องใช้เวลาอีกนาน ทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ยังไม่จบง่ายๆ ซึ่งจะส่งผลผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่อาจจะต้องใช้เวลาอีกนาน

กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ ยังคงแนะนำให้เข้าซื้อเมื่อราคาปรับลดลงมา แต่อยากให้เป็นการทยอยซื้อ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและเหนือความคาดหมาย ที่สำคัญหากยังไม่อยากให้ตัดขาดทุน เพราะมองว่าเทรนด์ใหญ่ของทองคำยังคงเป็นบวก เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการอัดฉีดเม็ดเงินปริมาณมหาศาลเข้าระบบ และยังจะต้องอัดฉีดเพิ่มอีกในเร็วๆ นี้ เพื่อช่วย เหลือภาคส่วนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 กำลังจะเริ่มเห็นผล โดยเฉพาะเรื่องของเงินเฟ้อที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำโดยตรง

นายดนุ ชาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีแคป จำกัด กล่าว

Exit mobile version