01-06-20
เช้านี้ราคาทองคำได้ประบตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยไปแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,742 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขาย โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลงของดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส หลังจากที่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมให้นายจอร์จ ฟลอยด์ ที่ลุกลามเป็นเหตุจลาจลในหลายพื้นที่ของสหรัฐ
ส่วนราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.81 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจาก การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังการเปิดเผยดัชนี Core PCE และการใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐที่ดิ่งลงเกินคาด
นอกจากนั้นยังมีเรื่องความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากในวันศุกร์ประธานาธิบดี ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะเริ่มกระบวนการยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกง, คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นในฮ่องกง, สั่งห้ามชาวจีนบางรายเดินทางเข้าสหรัฐโดยระบุว่าอาจเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคง และยังได้ประกาศตัดความสัมพันธ์กับองค์การอนามัยโลก(WHO)โดยระบุว่าเป็นหุ่นเชิดของจีนอีกด้วย
แม้สถานการณ์ที่กล่าวมาจะหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,737 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขายของวันศุกร์ แต่ราคาทองคำลดช่วงบวกลงหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ระบุถึงการดำเนินการทางภาษีต่อจีน รวมถึงยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ที่กระทบต่อการเจรจาการค้าระหว่าง 2 ประเทศ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวขึ้นจนกดดันให้เกิดแรงขายทำกำไรในตลาดทองคำ
ด้านกองทุน SPDR ได้ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 3.51 ตัน ทำขณะนี้ให้รวมถือครองสู่ระดับ 1,123.14 ตันซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เม.ย.ปี 2013
มาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในด้านเทคนิค หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,722-1,727 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันก่อนหน้า อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลง โดยประเมินแนวรับบริเวณที่ 1,704-1,693 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้นระยะสั้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ เข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,722-1,709 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,743-1,754 ดอลลาร์ต่อออนซ์