Site icon Gold Around

มองทิศทาง ราคาทองคำ หลังเฟดลดดอกเบี้ยพร้อมใช้ QE

GT GOLD BULLION

GT GOLD BULLION

16 มีนาคม 2563

ราคาทองคำ ดีดตัวรับข่าวเฟดลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน พร้อมออกมาตรการ QE แก้ปัญหา ศก.จากไวรัส โควิด-19 ก่อนถูกเทขายทำกำไรออกมา จีทีฯ แนะจับตาการเคลื่อนไหวใกล้ชิด ถือเป็นเรื่องใหม่ของวงการทองคำ พร้อมประเมินราคาทองคำวันนี้จะสวิงในกรอบกว้าง ตลอดวันเพื่อรอตลาดยุโรปและอเมริกา

นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด
นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด

หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบฉุกเฉิน ลดลงอีก 1 % ก่อนจะถึงวันประชุมของเฟดในอีก 1-2 วันข้างหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้เฟดได้เคยประกาศลดไป 0.50 % มาแล้ว ทำให้ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐเหลือเพียง 0.00-0.25% และยังมีมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) มูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ ไปเมื่อเช้านี้ตามเวลาในประเทศไทย ราคาทองคำ ในตลาดเอเชีย เมื่อเปิดตลาดราคาได้ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 30 ดอลลาร์ จากเมื่อวันศุกร์ราคาปิดที่ 1,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เช้านี้ราคาดีดขึ้นมา 1,563 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะถูกเทขาย จนทำให้ราคากลับไปยืนที่เดิม ลดลงไปเหลือ 1,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด เปิดเผยกับเว็บไซต์ GoldAround.com ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายในสินทรัพย์ทองคำ ซึ่งตลาดไม่ได้ตอบรับเหมือนอย่างเช่นในอดีต ที่เมื่อมีการประกาศลดดอกเบี้ย และทำ QE ราคาทองคำจะต้องพุ่งขึ้น เพราะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคาทองคำในตลาดเอเชียเช้านี้ได้สวิงแรงก่อนจะถูกเทขายทำกำไร เพื่อถือเงินรอทิศทางการลงทุนในรอบใหม่ ซึ่งถือเป็นปรากฎการณ์ใหม่ ที่อยากให้นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายในช่วงนี้

อย่างไรก็ดี ยังมีความมั่นใจว่าราคาทองคำจะดีดตัวกลับขึ้นไปอย่างแน่นอน เพราะสถานการณ์โดยรวมแล้ว ยังเอื้อต่อราคาทองคำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาเรื่องของไวรัส โควิด -19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำให้ต้องมีการประกาศลดดอกเบี้ยลงอย่างแรง และใช้มาตรการ QE

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ คาดว่า ราคาทองคำ จะแกว่งตัวในกรอบกว้าง ๆ ประมาณ 30 ดอลลาร์ เพื่อรอการเปิดตลาดของฝั่งยุโรปและอเมริกา ทั้งนี้ อยากให้นักลงทุนกำหนดจุดซื้อขายเป็นช่วง และให้ทยอยซื้อและทยอยขายในจุดที่เป็นแนวรับและแนวต้าน

โดยแนวต้านแรก วางไว้ที่ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และจุดต่อไปคือที่ 1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวรับแรก อยู่ที่ 1,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวรับต่อไปที่ระดับ 1,515 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ไหว คงจะต้องมองไปที่ระดับต่ำว่า 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นแนวรับทางจิตวิทยาที่สำคัญ แต่หากยังเอาไม่อยู่ก็มองไปที่ 1,490 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด

ขอขอบคุณ บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด

Exit mobile version