Site icon Gold Around

ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยเพิ่ม 28 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย สหรัฐติดเชื้อเกือบ 8 แสน แต่ “ทรัมป์” เสนอแผนใช้เปิดเมือง

มาดูความคืบสถานการณ์การแพร่ะบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในวันที่ 17 เม.ย. ประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อ 2,700 ราย เพิ่มขึ้น 28 ราย เสียชีวิต 47 ราย เพิ่มขึ้น 1 ราย ผู้ป่วยวิกฤต 61 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหาย 1,689 ราย ขณะที่ผู้ป่วยติดเชื้อทั่วโลก มี 2,183,452 ราย เสียชีวิต 146,847 ราย รักษาหาย 547,431 ราย โดยสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลก 678,144 ราย เสียชีวิต 34,641 ราย

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า – นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้เสนอแผนการ 3 ขั้น เปิดทางให้รัฐต่าง ๆ ผ่อนคลายคำสั่งปิดเมือง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้เดินหน้าต่อไปได้ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 แต่จะทำไปทีละขั้นตอนด้วยความระมัดระวัง และแผนการที่เสนอเป็นเพียง ‘คำแนะนำ’ ไม่ใช่ ‘คำสั่ง’ โดยแต่ละพื้นที่เลือกทำตามความเหมาะสมกับสถานการณ์

ขั้นแรก ให้งดการรวมตัวเกินกว่า 10 คน ,หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น, สนับสนุนการทำงานจากที่บ้าน และปิดพื้นที่ใช้งานรวมภายในสำนักงานต่าง ๆ โรงเรียนยังจะหยุดต่อไป สถานที่สาธารณะ เช่น โรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร สนามกีฬา และศาสนสถาน สามารถเปิดดำเนินงานได้ แต่ต้องมี “กฎการเว้นระยะห่างที่เข้มงวด” ขณะที่โรงพยาบาลซึ่งเผชิญงานหนักในการรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ก็อาจเริ่มให้บริการผ่าตัดแก่ผู้ป่วยทั่วไปที่มีความจำเป็น

ขั้นที่ 2 จะเริ่มดำเนินการได้สำหรับรัฐ ที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการรวมตัวเกินกว่า 50 คน, ประชาชนสามารถเดินทางไปประกอบกิจธุระที่ไม่จำเป็นได้, อนุญาตให้เปิดโรงเรียนและค่ายเยาวชนต่าง ๆ และโรงพยาบาลสามารถให้บริการผ่าตัดแก่ผู้ป่วยทั่วไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง

ขั้นที่ 3 อนุญาตให้ลูกจ้างกลับเข้าทำงานได้อย่างไม่มีข้อจำกัด แต่ให้ประชาชนยึดถือ “แนวทางปกติแบบใหม่” (new normal) ซึ่งหมายถึงมาตรฐานด้านสุขอนามัยที่สูงขึ้น และการเว้นระยะห่างทางกายเพื่อลดโอกาสติดเชื้อจากผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ

ทั้งนี้ นายทรัมป์ฯ พยายามผลักดันให้มีการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเร็ว หลังมาตรการล็อคดาวน์ทำให้ชาวอเมริกันนับล้านๆ คนต้องตกงาน หลังพบว่าในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ลงทะเบียนเป็นคนว่างงานแล้วกว่า 20 ล้านคน นอกจากนั้นมาตรการล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของประชาชน และอาจทำให้ปัญหายาเสพติด แอลกอฮอล์ การฆ่าตัวตาย และโรคหัวใจเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ คำแนะนำนี้ยังส่งผลให้กฎการควบคุมโรคของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะมีผลบังคับไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. สามารถสิ้นสุดได้ทันที โดยรัฐที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์สามารถทำตามแผนระยะที่ 1’ได้ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.

Exit mobile version