โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
bond yield 10 ปี พุ่งขึ้นแตะสูงสุด 3.1% กดดันทองคำ
ติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.
แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวลงได้ต่อ
- ราคาทอง Spot ช่วงกลางวันดีดขึ้นแรงเหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์ ทั้งนี้ราคาทองคำก็เกิดแรงเทขายออกมาตั้งแต่ช่วงเย็น ซึ่งนักลงทุนซึมซับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด 0.50% ในการประชุม ประกอบกับคลายความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงของธนาคารกลางสหรัฐ และการปรับลดขนาดงบดุลอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ดีราคาทองคำถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะสูงสุด 3.1% ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ขายทองคำสุทธิ 4.06 ตันจากเมื่อวาน
- คืนนี้สหรัฐเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 390,000 ตำแหน่ง จากที่เพิ่มขึ้น 431,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงเดือนเม.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% จากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค. อัตราการว่างงานเดือนเม.ย. ตลาดคาดว่าจะลดลง 3.5% จาก 3.6% ในเดือนมี.ค.
- แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวลงได้ต่อ โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,860 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,850 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,890 ดอลลาร์ และ 1,900 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | Support | Resistance |
1,876.50 | 1,860/1,850 | 1,890/1,900 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | Support | Resistance |
30,600 | 30,300/30,200 | 30,650/30,850 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | Support | Resistance |
30,790 | 30,350/30,230 | 30,770/30,860 |
เก็งกำไรฝั่งซื้อใกล้แนวรับบริเวณ 1,850 ดอลลาร์ (GF 30,230 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,835 ดอลลาร์ (GF 30,080 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | Support | Resistance |
1,884.00 | 1,862/1,852 | 1,892/1,902 |
เก็งกำไรฝั่งซื้อใกล้แนวรับบริเวณ 1,852 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,837 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องในรอบ 1 สัปดาห์กว่า ๆ ซึ่งบาทแข็งค่าตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มอ่อนค่า หลังจากที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่ามากสุดในรอบ 20 ปี โดยนักลงทุนซึมซับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด สำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.65 มีแนวรับที่ 33.90 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 34.60 บาท/ดอลลาร์
News
รัสเซียขู่โจมตียานพาหนะของนาโตที่ลำเลียงอาวุธให้ยูเครน
นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า ยานพาหนะทุกคันขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) ที่เดินทางเข้ายูเครนเพื่อส่งมอบอาวุธแก่กองทัพยูเครน ถือว่าเป็นเป้าหมายอันชอบธรรมสำหรับการทำลายล้าง นายชอยกูกล่าวในระหว่างการประชุมหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมรัสเซียว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรนาโตยังคงส่งอาวุธให้แก่ยูเครนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นายซอยกูกล่าวว่า กองทัพรัสเซียพร้อมด้วยกองกำลังของแคว้นลูฮันสก์และแคว้นโดเนตสก์ กำลังรุกคืบเพื่อเข้ายึดครองแคว้นดอนบาส และกองกำลังเหล่านี้จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ของตนต่อไป ทั้งนี้ นายซอยกูกล่าวว่า ระเบียงมนุษยธรรม (Humanitarian Corridor) ซึ่งกำหนดขึ้นเพื่อการอพยพพลเรือนยูเครนนั้นเปิดทุกวัน และกองกำลังติดอาวุธของรัสเซียได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างจริงจังให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ถูกยึดครอง รัสเซียได้ส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ระบุว่าเป็นปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย โดยหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า “การทำสงคราม” ทั้งนี้ มีการประเมินกันว่าพลเรือนชาวยูเครนได้เสียชีวิตหลายพันคน และต้องอพยพหนีการสู้รบมากกว่า 5 ล้านคน ขณะที่คาดว่าทหารรัสเซียเสียชีวิตอย่างน้อย 10,000 นาย นับตั้งแต่ที่กองทัพรัสเซียบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ.
เจพีมอร์แกนลดแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกปีนี้ลง 1 ล้านบาร์เรล/วัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารเจพีมอร์แกน (JPM) ปรับลดแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปี 2565 ลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น, แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจถดถอยลง และความตึงเครียดทางการเมืองทวีความรุนแรงขึ้น “ตอนนี้เราเห็นความต้องการน้ำมันเฉลี่ยที่ 100 ล้าน bpd ซึ่งต่ำกว่าระดับในปี 2562 ถึง 400,000 bpd” JPM เปิดเผยในบันทึกประจำสัปดาห์ JPM คงประมาณการราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ไว้ที่ 114 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาส 2 ของปีนี้ และที่ 104 ดอลลาร์/บาร์เรลสำหรับปีปฏิทิน 2565 นอกจากนี้ JPM กล่าวว่า ราคาน้ำมันปรับตัวอยู่ในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากความต้องการน้ำมันทั่วโลกลดลง และการระบายน้ำมันจากคลังสำรองหักล้างการคาดการณ์ที่ว่ายุโรปอาจตกลงที่จะระงับการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย “ด้วยปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้หักล้างกันเอง เราจึงยังคงคาดว่าตลาดจะมีความสมดุลในปี 2565” JPM กล่าว อนึ่ง ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นประมาณ 5 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ จนส่งผลให้ BRENT พุ่งขึ้นแตะ 110.14 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นกลุ่มการค้าใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยแผนยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย JPM ตั้งข้อสังเกตว่า การที่รัสเซียสามารถเปลี่ยนเส้นทางการขายน้ำมันอาจทำให้การคาดการณ์ดังกล่าวผิดพลาด และรัสเซียจำเป็นต้องลดราคาน้ำมันดิบของตนลงเพื่อให้จีนซื้อได้เพิ่มขึ้นในขณะที่ตลาดโลกยังคงมีปริมาณน้ำมันมากเพียงพอ
“พาวเวล” ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.5% ในการประชุมครั้งหน้า แต่ปฏิเสธขึ้นแรง 0.75%
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันพุธ (4 พ.ค.) ว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐอยู่ในภาวะตึงตัวมาก และอัตราเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับที่สูงเกินไป โดยเฟดจะเร่งดำเนินการเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 0.75% – 1.00% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี “คณะกรรมการเฟดมีความเห็นว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุม 2 ครั้งข้างหน้า อย่างไรก็ดี ขณะนี้คณะกรรมการเฟดยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงถึง 0.75%” นายพาวเวลกล่าว