ทองคำเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐอาจบรรลุข้อตกลง
คืนนี้สหรัฐไม่มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวSideways up
- ราคาทองคำ Spotเมื่อวานปรับขึ้นต่อเนื่องทดสอบแนวต้าน 1,900ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แถลงว่า มีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะบรรลุข้อตกลงกับสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ พร้อมระบุว่าการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นไปด้วยดีรวมทั้งสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ระดับ 840,000 ราย สูงกว่าตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 820,000 รายทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวานติดต่อกันเป็นวันที่ 2
- คืนนี้สหรัฐไม่มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ขณะที่ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ ซึ่งสัปดาห์หน้าติดตามประเด็นการเมืองสหรัฐ ซึ่งจะมีการดีเบตครั้งที่ 2 ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ซึ่งกำหนดไว้วันที่ 15 ต.ค.ว่าจะเลื่อนออกไปหรือไม่
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวSideways upโดยมีแนวต้านที่ 1,920ดอลลาร์ และ 1,940 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับอยู่ที่ 1,880 ดอลลาร์และ1,860 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
| Close | chg. | Support | Resistance |
| 1,892.90 | +5.9 | 1,880/1,860 | 1,920/1,940 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
| Close | chg. | Support | Resistance |
| 27,900 | -50 | 27,800/27,500 | 28,300/28,550 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
| Close | chg | Support | Resistance |
| 28,090 | +30 | 27,970/27,700 | 28,470/28,740 |
แนะนำซื้อเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,880 ดอลลาร์ (GF 27,970 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,850 ดอลลาร์(GF 27,770บาท)
การลงทุนในทองแท่งแนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,880 ดอลลาร์ และ1,860 ดอลลาร์
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
| Close | chg | Support | Resistance |
| 1,899.40 | +2.10 | 1,885/1,865 | 1,925/1,945 |
แนะนำซื้อเมื่อราคาGOZ20ปรับลงมาที่ 1,885 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,875 ดอลลาร์
เงินบาท
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้นต่อโดยเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆอ่อนค่าลงเนื่องจากสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สูงกว่าตลาดคาดซึ่งUSD Futures เดือนธ.ค.63คาดจะมีแนวรับที่ 31.20 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.35 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลักหลังข้อมูลแรงงานสหรัฐซบเซา
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่ซบเซาขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.04% แตะที่ 93.6040
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดบวก $4.3 รับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคืบหน้า
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ต.ค.) ขานรับความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แสดงมุมมองบวกว่ามีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะบรรลุข้อตกลงกับพรรคเดโมแครตเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.3 ดอลลาร์หรือ 0.23% ปิดที่ 1,895.1 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2 เซนต์หรือ 0.08% ปิดที่ 23.876 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดพุ่ง $1.24 หลังพายุเดลต้าฉุดการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่าอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคน “เดลต้า” ส่งผลให้ผลิตน้ำมันในอ่าวต้องถูกระงับลงมากกว่า 90% นอกจากนี้ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 1.24 ดอลลาร์หรือ 3.1% ปิดที่ 41.19 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์หรือ 3.2% ปิดที่ 43.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดบวก 122.05 จุดขานรับทรัมป์หนุนมาตรการกระตุ้นศก.
ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ต.ค.) ขานรับประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ที่แสดงมุมมองบวกว่ามีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะบรรลุข้อตกลงกับพรรคเดโมแครตเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่โดยหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้นขานรับความหวังเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลืออุตสาหกรรมสายการบินดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,425.51 จุดเพิ่มขึ้น 122.05 จุดหรือ +0.43% ขณะที่ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,446.83 จุดเพิ่มขึ้น 27.38 จุดหรือ +0.80% ส่วนดัชนีNasdaq ปิดที่ 11,420.98 จุดเพิ่มขึ้น 56.38 จุดหรือ +0.50%
ผู้ป่วยโควิดแห่ขอลองยารักษาทรัมป์แพทย์เตือนรอข้อมูลด้านประสิทธิภาพ
บรรดาผู้ป่วยได้ขอเข้าร่วมการทดลองทางคลินิกสำหรับการใช้ยารักษาโรคโควิด-19 ที่สกัดจากแอนติบอดีของบริษัทRegeneron Pharmaceuticals Inc. ซึ่งใช้ในการรักษาอาการป่วยของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งนี้ปธน.ทรัมป์ได้ออกจากโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์รีดและกลับเข้าทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ต.ค.หลังได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ต.ค. โดยเขามีอาการติดเชื้อที่ปอดจนระดับออกซิเจนในเลือดลดต่ำลงแพทย์ประจำตัวของปธน.ทรัมป์เผยว่าผลการตรวจเลือดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาพบว่าแอนติบอดีมีการต่อสู้กับเชื้อโรคซึ่งโฆษกของRegeneronให้เหตุผลว่าอาจเป็นผลมาจากการรักษาด้วยยาของบริษัทด้านปธน.ทรัมป์ได้สัญญาว่าเขาจะให้ชาวอเมริกันได้รับยาดังกล่าวฟรีพร้อมทั้งบรรยายถึงสรรพคุณของยานี้อย่างไรก็ดีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ระบุว่าก่อนที่จะนำยาดังกล่าวไปใช้ในวงกว้างได้นั้นจะต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประเมินประสิทธิภาพในการรักษา
ที่ปรึกษาทำเนียบขาวเตือนจีนอย่าคิดโจมตีไต้หวัน
นายโรเบิร์ตโอไบรอันที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐออกโรงเตือนจีนอย่าพยายามยึดไต้หวันคืนด้วยการใช้กำลังชี้ไม่ใช่เรื่องง่ายพร้อมทั้งย้ำว่ามีวิธีการมากมายที่สหรัฐจะใช้เพื่อตอบโต้ภายใต้นโยบาย “ความคลุมเครือทางยุทธศาสตร์” นายโอไบรอันกล่าวว่าจีนสร้างกองเรือขนาดใหญ่มากแบบที่เราอาจไม่เคยเห็นนับตั้งแต่สมัยที่เยอรมนีพยายามจะสู้รบกับกองทัพเรือของอังกฤษก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 “พวกเขาต้องการผลักดันเราออกจากภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกเพื่อเปิดทางให้ตนเองยกพลขึ้นบกบนชายฝั่งของไต้หวัน” ที่ปรึกษาความมั่นคงกล่าวอย่างไรก็ตามนายโอไบรอันกล่าวเสริมว่า “การยกพลขึ้นบกนั้นป็นเรื่องที่ยากมาก” เมื่อพิจารณาจากระยะทางระหว่างจีนและไต้หวันรวมถึงลักษณะทางภูมิศาสตร์ของไต้หวันเมื่อถูกถามว่าสหรัฐจะดำเนินการอย่างไรหากจีนพยายามผนวกรวมไต้หวันนายโอไบรอันตอบว่า “มันไม่ใช่เรื่องง่ายอีกทั้งยังมีวิธีการคลุมเครือมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่สหรัฐจะทำเพื่อตอบโต้การโจมตีไต้หวันของจีน” ทั้งนี้นายโอไบรอันได้อ้างถึงนโยบาย “ความคลุมเครือทางยุทธศาสตร์” (strategic ambiguity) ของสหรัฐที่มีมายาวนานนโยบายดังกล่าวไม่แสดงเจตนารมณ์ปกป้องไต้หวันอย่างโจ่งแจ้งโดยสหรัฐอาจให้ความช่วยเหลือแก่ไต้หวันด้วยวิธีการต่างๆเพื่อให้ไต้หวันปกป้องตนเองแต่กฎหมายไม่ได้ระบุชัดเจนว่าสหรัฐจะใช้วิธีการแทรกแซงทางทหารเพื่อปกป้องไต้หวันหรือไม่หากจีนโจมตีไต้หวัน
ทรัมป์เชื่อติดโควิดเป็น “พรจากพระเจ้า” ได้ทดลองประสิทธิภาพยาโดยตรง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐได้ประกาศผ่านทางวิดีโอที่มีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ว่าการติดเชื้อโควิด-19 เปรียบเสมือน “พรจากพระเจ้า” เพราะทำให้เขาได้เข้าสู่กระบวนการรักษาที่อยู่ในขั้นทดลองพร้อมทั้งได้ให้สัญญาว่าเขาจะทำให้ชาวอเมริกันทุกคนได้รับการรักษาโรคโควิด-19 ฟรีปธน.ทรัมป์ได้กล่าวย้ำว่าเขารู้สึกดีอย่างมากจากการหายป่วยจากโรคโควิด-19 หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลทหารวอลเตอร์รีดอย่างไรก็ดียังไม่มีความชัดเจนว่าเขายังมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวกหรือไม่ “ผมคิดว่าเป็นพรจากพระเจ้าที่ทำให้ผมติดเชื้อโควิด” ปธน.ทรัมป์กล่าวพร้อมทั้งระบุว่าการได้รับยาจากบริษัทRegeneron Pharmaceuticals Incทำให้เขาได้ประสบการณ์โดยตรงเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยาดังกล่าว