Site icon Gold Around

ทองคำได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ (YLG)

17-7-20

เน้นการเก็งกำไรจากการแกว่งตัว หากราคาทองคำยังคงพยายามยืนเหนือโซนแนวรับบริเวณ 1,789-1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้จะทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับขึ้นเพื่อทดสอบกรอบราคาด้านบนโซน 1,808-1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,786 1,773 1,763 แนวต้าน : 1,808 1,818 1,831

สรุปราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 15.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำได้รับปัจจัยกดดันหลักมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์  ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในสหรัฐ ล่าสุด  Reuters เปิดเผยว่า  จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 รายใหม่ในสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างน้อย 70,727  รายในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง  นอกจากนี้นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน  หลังจากแหล่งข่าวเผยว่า  คณะบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังพิจารณาคว่ำบาตรการเดินทางมายังสหรัฐของสมาชิกทั้งหมดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและครอบครัว  ปัจจัยที่กล่าวมาก่อให้เกิดกระแสเงินทุนไหลเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยแทนที่จะเป็นทองคำ  ประกอบกับสกุลเงินยูโรอ่อนค่าหลังจากธนาคารกลางยุโรป(ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย  พร้อมคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ตามเดิม  จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนสกุลเงินดอลลาร์เพิ่มเติม  อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหลายรายการต่างออกมาดีเกินคาด  อาทิ  ยอดค้าปลีก  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน  และดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกจากเฟดฟิลาเดลเฟีย  ปัจจัยที่กล่าวมาสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำจนส่งผลให้ราคาร่วงลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้าง, ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภค จาก UoM  รวมถึงติดตามการประชุมของผู้นำ 27 ชาติสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หากมีการ “อนุมัติ” จัดตั้งกองทุนฟื้นฟูวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (8.517 แสนล้านดอลลาร์)เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนให้ฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤตการณ์ COVID-19 จากประเทศสมาชิก  อาจช่วยหนุนสกุลเงินยูโร ซึ่งมักจะส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคำ

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

ขอขอบคุณ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

Exit mobile version