21-08-20
มาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำวันในสุดท้ายของสัปดาห์นี้ ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ เช่นเดียวกับค่าเงินบาท ทำให้วันนี้ (21 ส.ค.) สมาคมค้าทองคำได้ประกาศปรับราคา ขึ้น-ลง รวม 8 ครั้ง เพิ่มขึ้นบาทละ 150 บาท ขณะที่ราคา gold spot แกว่งตัวขึ้นลงในกรอบ 15-20 ดอลลาร์ โดยล่าสุด (18.30 น.) ราคาได้ลดลงมาอยู่ที่ 1,932 ดอลลาร์
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำช่วงนี้ ในทางเทคนิคจะเห็นได้ว่า กรอบราคาระหว่างแนวรับและแนวต้าน ที่วิ่งเข้าหากันแคบลงมาเรื่อย ๆ และขณะนี้ ฐานของราคาได้ยกตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวในกรอบ 1,860-2,010 ดอลลาร์ ทำให้คาดการณ์ว่าภายในสิ้นเดือนนี้ ราคาทองคำจะไม่ทะลุกรอบดังกล่าว ยกเว้นจะมีข่าวความเคลื่อนไหวแรง ๆ ที่เหนือความหมายออกมา และมองว่าหลังจากนี้ ช่องว่างของราคาจะยิ่งแคบลงอีก อาจจะอยู่ในระดับ 1,900-1,980 ดอลลาร์ก็เป็นได้
นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com
สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงนี้ จะอยู่ในกรอบ ขึ้น-ลง ประมาณ 20 ดอลลาร์ ซึ่งนายธีรรัฐฯ มองว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะหากจะมองจากฐานราคาทองคำปัจจุบันที่ขยับมาแตะเกือบ 2,000 ดอลลาร์ ก็เพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น และการเคลื่อนไหวของทองคำในกรอบราคาลักษณะนี้ จะเหมาะกับการลงทุนเน้นทำกำไรระยะสั้น ที่เข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัว และยังซื้อเฉลี่ยได้หากราคาลงไปอีกระยะ ก่อนจะขายทำกำไรเมื่อราคาดีดกลับมาในกรอบ แต่ยังไม่ใช่จะหวังหวะที่รอทำกำไรในกรอบกว้าง
กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด ยังได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวว่า ให้อยู่ฝั่งซื้อ โดยแบ่งเงินลงทุนออกเป็น 4 ส่วน ส่วนแรก 20 % เข้าซื้อที่ระดับราคาใดก็ได้ อีก 20 % เข้าซื้อที่ระดับราคา 1,900 ดอลลาร์ต้น ๆ อีก 20 % ซื้อที่ระดับราคา 1,870-1,880 ดอลลาร์ ส่วนที่เหลือรอซื้อหากราคาไหลลงต่ำกว่านั้น
ส่วนคนที่ซื้อทองคำในช่วงราคามากกว่า 30,000 บาทเอาไว้ และไม่เงินทุนที่จะซื้อเฉลี่ยเพิ่มเติม หากเป็นไปได้อยากให้ถือรอ โดยคาดว่าช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ราคาทองคำจะมีความผันผวนสูงมาก ซึ่งราคาอาจจะวิ่งขึ้นมาแตะหรือทะลุระดับบาทละ 30,000 บาทได้ หรืออาจจะยอมขายขาดทุนบางส่วนเพื่อนำเงินกลับมาลงทุนทำกำไรในระยะสั้นในช่วงนี้ ก็เป็นทางเลือกที่ดี
ยังยืนยันว่า เทรนด์ใหญ่ระยะยาวราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น เพราะรากฐานของปัญหาคือเรื่องของสภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ซึ่งเกือบทุกประเทศได้อัดฉีดเงินเข้ามาช่วยพยุงไม่ให้เศรษฐกิจล้ม โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้ว่าขณะนี้เม็ดเงินเหล่านั้นจะยังไม่ถูกกระจายไปถึงรากหญ้าโดยตรง และยังวงเวียนอยู่กับกลุ่มทุนเพื่อประคองไม่ให้ภาคธุรกิจและการลงทุนได้รับความเสียหายหนัก แต่หลังจากที่ปัญหาเริ่มลดลง เม็ดเงินที่ผลิตออกมาจะถูกย้ายไปยังกลุ่มเรียลเซคเตอร์ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อตามมาอย่างแน่นอน
นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com
ขอขอบคุณ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด